วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งรัตนโกสินทร์ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST <p>วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งรัตนโกสินทร์ (RJST) คือ วารสารที่มีการตรวจสอบบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (peer review) และมีการเข้าถึงแบบเปิด (open acess) ซึ่งเผยแพร่งานวิจัยใหม่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในปัจจุบันผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบบทความ (peer reviewer) จำนวนสามท่านในแต่ละหัวข้อวิจัยจากหลากหลายสถาบันบนพื้นฐานเทคนิคการตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิแบบปกปิด (blind peer review technique) ถูกใช้ประเมินแต่ละต้นฉบับ นอกจากนี้ผู้เขียนบทความและผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบบทความทั้งหมดสังกัดสถาบันที่แตกต่างกัน</p> <p>วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งรัตนโกสินทร์เปิดรับบทความในสาขาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ สถิติ คณิตศาสตร์คณนาเทคโนโลยีอาหาร วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ การศึกษาวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง</p> <p>กำหนดการตีพิมพ์เผยแพร่ปีละ 3 ฉบับ ได้แก่ ฉบับที่ 1 : มกราคม-เมษายน ฉบับที่ 2 : พฤษภาคม – สิงหาคม ฉบับที่ 3: กันยายน – ธันวาคม </p> en-US <p>ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารทั้งหมด รวมถึงรูปภาพประกอบ ตาราง เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร</p> <p>มหาวิทยาลัยฯ อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยต้องแสดงที่มาจากวารสารและไม่ใช้เพื่อการค้า </p> <p>ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และบุคลากร คณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯแต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการ</p> rjst@rmutr.ac.th (รศ.ดร.พิชิต กิตติสุวรรณ์/Assoc.Prof.Dr.Pichid Kittisuwan) rjst@rmutr.ac.th (สมกมล ภัทรกิจโสภณ/Somkamon Pattarakitsophon) Fri, 29 Aug 2025 00:00:00 +0700 OJS 3.3.0.8 http://blogs.law.harvard.edu/tech/rss 60 การศึกษาความเข้มของภาพถ่ายเอกซเรย์ที่ทะลุผ่านแผ่นยางตามอัตราส่วนของแบเรียมซัลเฟตโดยการบันทึกภาพบนแผ่นเรืองรังสีด้วยกล้องดิจิตอล https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/255723 <p>ในยุคปัจจุบันได้มีการนำเอกซเรย์มาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์มากมาย ในการทำงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องมีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากรังสีอย่างเหมาะสม แต่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมได้ งานวิจัยนี้มีจึงวัตถุประสงค์ศึกษาความเข้มของภาพถ่ายเอกซเรย์ที่ทะลุผ่านแผ่นยางคอมพอสิตตามอัตราส่วนของแบเรียมซัลเฟต โดยการบันทึกภาพบนฉากเรืองรังสีด้วยกล้องดิจิตอล วิธีการวิจัย การผลิตแผ่นยางคอมพอสิตตามอัตราส่วนแบเรียมซัลเฟต 0, 5, 10, 15 และ 20 phr และความหนา 3, 6 และ 9 mm ด้วยระบบการถ่ายภาพเอกซเรย์ประกอบด้วย เครื่องเอกซเรย์, ฉากเรืองรังสี, กล้องดิจิตอล และคอมพิวเตอร์ในการบันทึกภาพ โดยการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์การลดทอนพลังงานของเอกซเรย์จากโปรแกรม ImageJ ผลการวิจัยพบว่า เมื่อแรงดันไฟฟ้ามากขึ้นค่าสัมประสิทธิ์การลดทอนพลังงานมีค่าน้อยลง และเมื่ออัตราส่วนของแบเรียมซัลเฟต และแผ่นยางพารามีความหนามากขึ้น ส่งผลให้ค่าสัมประสิทธิ์การลดทอนพลังงานของเอกซเรย์มีค่ามากขึ้นตามไปด้วย สรุปผลการวิจัย แผ่นยางพาราคอมพอสิตสามารถเป็นอุปกรณ์การป้องกันอันตรายจากรังสี และสามารถเป็นแนวทางการสร้างอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากรังสีที่มีเทคนิคแตกต่างกันได้</p> พณพณ สาวิโรจน์, นภเกตน์ สารรัตน์, ปุญญิศา เครือคุณ, นวบดินทร์ ธนภคินธยาน์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/255723 Fri, 29 Aug 2025 00:00:00 +0700 พลังงานของผลคูณคาร์ทีเชียนของกราฟ K_2 และกราฟ G ที่มีเซลฟ์ลูป https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/253762 <p><em>&nbsp;</em>ให้ <img title="G_\sigma" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?G_\sigma"> เป็นกราฟที่ได้จากกราฟ G ที่มีอันดับ n โดยการเพิ่มเซลฟ์ลูปบนจุดที่เลือกจำนวน <img title="\sigma" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?\sigma">&nbsp;จุด พลังงานของกราฟ <img title="G_\sigma" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?G_\sigma"> เขียนแทนด้วย <img title="E(G_\sigma)" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?E(G_\sigma)"> &nbsp;กำหนดโดย</p> <p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; <img title="E(G_\sigma)=\sum_{i=1}^n|\lambda_i (G_\sigma)-\frac{\sigma}{n}|" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?E(G_\sigma)=\sum_{i=1}^n|\lambda_i&amp;space;(G_\sigma)-\frac{\sigma}{n}|"></p> <p>โดยที่ เป็นค่าลักษณะเฉพาะของกราฟ <img title="G_\sigma" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?G_\sigma"> &nbsp;เมื่อ&nbsp; <img title="i=1,2,...,n" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?i=1,2,...,n"></p> <p>ในงานวิจัยนี้เราได้ศึกษาพลังงานของผลคูณคาร์ทีเชียนของกราฟบริบูรณ์ <img title="K_2" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?K_2"> และกราฟเชิงเดียวจำกัดไม่ระบุทิศทาง&nbsp;G&nbsp; ที่มีเซลฟ์ลูป ซึ่งเขียนแทนด้วย <img title="K_2\times G^l" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?K_2\times&amp;space;G^l"> และได้ผลลัพธ์ดังนี้&nbsp;</p> <p><img title="E(K_2\times G^l )= \sum_{i=1}^n(|\lambda_i (G)+\frac{\sqrt{5}}{2}|+|\lambda_i (G)-\frac{\sqrt{5}}{2}|)" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?E(K_2\times&amp;space;G^l&amp;space;)=&amp;space;\sum_{i=1}^n(|\lambda_i&amp;space;(G)+\frac{\sqrt{5}}{2}|+|\lambda_i&amp;space;(G)-\frac{\sqrt{5}}{2}|)"></p> <p>โดยที่ <img title="\lambda_i(G)" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?\lambda_i(G)"> เป็นค่าลักษณะเฉพาะของ G เมื่อ <img title="i=1,2,...,n" src="https://latex.codecogs.com/gif.latex?i=1,2,...,n"></p> ชัญญา ทิศกลาง, เกณิกา ชินฝั่น ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/253762 Fri, 29 Aug 2025 00:00:00 +0700 การวัดค่าอัตราการดูดซึมเฉพาะที่ย่านความถี่ 2.4 GHz https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/255328 <p>งานวิจัยนี้นำเสนอการวัดค่าอัตราการดูดซึมเฉพาะย่านความถี่ 2.4 GHz ประกอบด้วยสายอากาศตัวรับ วงจรขยายสัญญาณ RF วงจรเรียงกระแส และบอร์ด Arduino สายอากาศมีโครงสร้างช่องว่างแถบแม่เหล็กไฟฟ้าวางล้อมรอบแพทช์แพร่กระจายคลื่น ทำหน้าที่กีดขวางการแพร่กระจายคลื่นพื้นผิว ทำให้สายอากาศมีความกว้างลำคลื่นครึ่งกำลังแคบ ส่งผลให้สายอากาศที่นำเสนอสามารถระบุตำแหน่งที่ต้องการวัดค่า SAR ได้แม่นยำมากขึ้น โครงสร้างสายอากาศมีขนาด 202×202 ตารางมิลลิเมตร สร้างบนวัสดุชนิด FR-4 มีค่าคงที่ไดอิเล็กตริกเท่ากับ 4.3 หนา 1.6 มิลลิเมตร ผลการทดสอบค่าขนาด S11 เท่ากับ -34.17dB ที่ความถี่ 2.45GHz มีค่าความกว้างลำคลื่นครึ่งกำลังเท่ากับ 61.8 องศา และ 60.9 องศาในระนาบ XZ และ YZ ตามลำดับ สัญญาณที่รับได้จากสายอากาศที่นำเสนอถูกป้อนสู่วงจรขยายสัญญาณ RF และวงจรเรียงกระแสเพื่อขยายสัญญาณและแปลงเป็นแรงดันไฟฟ้าก่อนนำเข้าสู่บอร์ด Arduino เพื่อคำนวณค่า SAR และแสดงผลบนหน้าจอ LCD</p> บันเจิด สวนทรัพย์, นิธิกานต์ ทองลอด, ประพัทธ์ อานมณี ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/255328 Fri, 29 Aug 2025 00:00:00 +0700 การหาลักษณะเฉพาะของออโตมอร์ฟิซึมกรุป และสตรองเอ็นโดมอร์ฟิซึมโมนอยด์บนกราฟทรีที่มีไดเมนเตอร์น้อยกว่า 4 https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/253688 <p>สำหรับกราฟ G ออโตมอร์ฟิซึมและสตรองเอ็นโดมอร์ฟิซึมบนกราฟ G จะหมายถึงฟังก์ชันของจุดบนกราฟ G กับการมีสมบัติคงสภาพการมีเส้นเชื่อมแบบเข้ม ซึ่งทำให้เซตของฟังก์ชันดังกล่าวกับการดำเนินการคอมโพสิท มีสมบัติเช่นเดียวกันกับกรุป และโมนอยด์ ตามลำดับ ในงานวิจัยนี้ จะเป็นการหาลักษณะเฉพาะของฟังก์ชันออโตมอร์ฟิซึมและสตรองเอ็นโดมอร์ฟิซึมบนกราฟทรีที่มีไดเมเตอร์น้อยกว่า 4</p> ธนพล ยาพรม, อรวี ครุฑหุ่น, นิรุตติ์ พิพรรธนจินดา ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/253688 Fri, 29 Aug 2025 00:00:00 +0700 การปรับปรุงผังลานสต็อกหินเทกองด้วยการวิเคราะห์แบบเอบีซี ของบริษัทผลิตหินปูนอุตสาหกรรม https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/253754 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงผังลานสต็อกหินเทกองด้วยการวิเคราะห์แบบเอบีซีของบริษัทผลิตหินปูนอุตสาหกรรม เนื่องจากลานสต๊อกหินเทกองของบริษัทในปัจจุบันไม่มีความเสถียร ส่งผลให้การบริหารจัดการลานสต๊อกหินเทกองไม่มีประสิทธิภาพ จึงนำการวิเคราะห์แบบเอบีซีมาทำการจัดแบ่งกลุ่มจากยอดขาย และนำแนวคิดอีซีอาร์เอสมาปรับปรุงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในลานสต๊อกหินเทกอง ทำการสร้างแบบจำลองการวางผังลานสต๊อกหินกองใหม่เพื่อลดการเคลื่อนที่และเวลาที่ไม่จำเป็น หลังทำการปรับปรุงผังลานสต็อกหินเทกองพบว่า เวลาและระยะทางในการทำกิจกรรมเดินทาง (ไป-กลับ) จากตาชั่งไปยังกองหินที่จำหน่าย ของรถบรรทุกขนาด 6 ล้อ 10 ล้อ และ 18 ล้อ ลดลง จากผลการวิจัยดังกล่าวสินค้าที่ขายดีมีความเร่งด่วนในการจำหน่ายและรีบใช้งานเกิดการหมุนเวียนก่อน การบริหารจัดการและการใช้พื้นที่ลานสต๊อกหินเทกองมีประสิทธิภาพมากขึ้น</p> ฤทัยภัทร ศุกระศร, ธีรวัฒน์ สุวรรณวัจณ์ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/253754 Fri, 29 Aug 2025 00:00:00 +0700 สภาวะการผลิตน้ำส้มสายชูหมักจากเปลือกกาแฟเชอรี่ที่อุดมด้วย สารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสุขภาพ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/256625 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาน้ำส้มสายชูหมักจากแอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักเปลือกกาแฟเชอรี่ โดยมุ่งเน้นในการสร้างเครื่องดื่มไซเดอร์ที่มีสารสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ การศึกษาผลของปัจจัยในกระบวนการผลิตกรดอะซีติก เช่น ชนิดของสายพันธุ์จุลินทรีย์ ปริมาณแอลกอฮอล์และน้ำตาลเริ่มต้น แอลกอฮอล์ที่ใช้มีปริมาณตั้งแต่ 13-15% ถูกเจือจางให้มีความเข้มข้นในช่วง 3-12% เพื่อนำไปหมักเป็นกรดอะซีติก โดยการเปรียบเทียบหัวเชื้อ <em>Acetobacter pasteurianus </em>สายพันธุ์ TISTR 102 และ TISTR 521 ซึ่งสามารถผลิตกรดอะซีติกได้มากกว่า 4.5% ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีสารประกอบฟีนอลิก 715 มค.ก.กรดแกลลิกต่อมล. น้ำส้มสายชูหมัก และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในรูปแบบ DPPH เท่ากับ 21.27 มค.ก.กรดแอสคอร์บิกต่อมล. น้ำส้มสายชูหมัก ซึ่งแสดงถึงฤทธิ์ยับยั้งที่ 8.36% ขณะเดียวกันฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในรูปแบบ FRAP มีค่า 38.79 มก.สมมูลเฟอรัสซัลเฟตต่อกรัมเปลือกกาแฟ <br />และ 139 มค.ก.สมมูลเฟอรัสซัลเฟตต่อมล.น้ำส้มสายชูหมัก ตามลำดับ ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในรูปแบบ FRAP มีประสิทธิภาพสูงกว่าฤทธิ์ในรูปแบบ DPPH ซึ่งแสดงถึงศักยภาพในการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์<br />ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและสุขภาพในอนาคต</p> พัทธนันท์ นาถพินิจ ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/256625 Fri, 29 Aug 2025 00:00:00 +0700 ระบบพยากรณ์อุณหภูมิน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้ง ด้วยการถดถอยเชิงพหุคูณ กรณีศึกษา พื้นที่ตำบลสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/256534 <p>การเลี้ยงกุ้งเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งการควบคุมอุณหภูมิน้ำมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพและการเติบโตของกุ้ง งานวิจัยนี้พัฒนาระบบเครื่องมือในการเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อมบ่อเลี้ยงกุ้ง เพื่อพยากรณ์อุณหภูมิน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้ง โดยใช้เซ็นเซอร์ 7 ชนิดเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อม ข้อมูลถูกวิเคราะห์ด้วยการถดถอยเชิงพหุคูณ หาความสัมพันธ์ของข้อมูลต่อการพยากรณ์อุณหภูมิน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้ง อยากมีนัยยะสำคัญที่ 0.05 ดังนี้ 1. เวลา 2. อุณหภูมิน้ำ 3. อุณหภูมิอากาศ 4. ความชื้นสัมพัทธ์ 5. ความเข้มแสง และสร้างระบบพยากรณ์อุณหภูมิแบบเรียลไทม์ ที่ความแม่นยำในการพยากรณ์อุณหภูมิน้ำในบ่อเลี้ยงกุ้งล่วงหน้า 1 ชั่วโมงอยู่ที่ร้อยละ 98.2</p> วรุตม์ บุญเลี่ยม, พรประสิทธิ์ บุญทอง, อาทิตย์ อยู่เย็น, ศิวะพร วิวัฒน์ภิญโญ, ศิริเรือง พัฒน์ช่วย ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/256534 Fri, 29 Aug 2025 00:00:00 +0700 การใช้แก่นตะวันทดแทนไขมันในขนมปังโฮลวีต https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/257041 <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปริมาณของแก่นตะวันที่เหมาะสมต่อคุณภาพด้านกายภาพ เคมี และด้านการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ของการใช้แก่นตะวันทดแทนไขมันในขนมปังโฮลวีต โดยทำการศึกษาปริมาณแก่นตะวันที่ใช้ทดแทนไขมันใน 3 ระดับ ได้แก่ ร้อยละ 50, 70, และ 100 วางแผนการทดลองแบบสุ่มตลอด (Complete Randomize Design, CRD) นำคะแนนเฉลี่ยมาวิเคราะห์ความแปรปรวน Analysis of Variances เปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยด้วยวิธี Duncan’s new multi range test โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ<br />ในการวิเคราะห์ จากการศึกษาพบว่า ปริมาณแก่นตะวันที่เหมาะสมในการใช้ทดแทนไขมันในขนมปังโฮลวีตอยู่ที่สัดส่วนร้อยละ 50 ของไขมันในส่วนผสม (แก่นตะวัน 45 กรัม เนยสด 45 กรัม) โดยการใช้แก่นตะวันในสัดส่วนดังกล่าว เป็นการเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับขนมปังโฮลวีตโดยมีปริมาณไขมันลดลงจากร้อยละ 8.41 เหลือร้อยละ 5.31 ปริมาณโปรตีนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9.87 เป็นร้อยละ 10.47 โดยไม่ทำให้ค่าความสว่างและค่าสีเปลี่ยนแปลง ปริมาณแก่นตะวันดังกล่าวยังส่งผลต่อปริมาตรจำเพาะ เนื้อสัมผัส และคุณสมบัติด้านเคมีของขนมปังเพียงเล็กน้อย ด้านอายุการเก็บรักษา ผลิตภัณฑ์สามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องได้ไม่เกิน 4 วันหลังจากอบ ตามเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนขนมปัง (มผช.747/2555) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม</p> รายวดี ผดุงกาญจน์, กิติภูมิ นิลจันทร์, อรทัย ชุ่มเย็น ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0 https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/RJST/article/view/257041 Fri, 29 Aug 2025 00:00:00 +0700