วารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

การพัฒนาแบบจำลองโรงเรือนสุกรอัจฉริยะด้วยไมโครคอนโทรลเลอร์และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของทุกสรรพสิ่ง

กมลรัตน์ ดัดตนรัมย์, ศุภาพิชญ์ ปะนาธรรมา, เปรม อิงคเวชชากุล — Thu, 19 Jun 2025 00:00:00 +0700

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบจำลองโรงเรือนสุกรอัจฉริยะด้วยไมโครคอนโทรลเลอร์และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง และ 2) ประเมินประสิทธิภาพของระบบที่พัฒนาขึ้น การวิจัยนี้ ดำเนินการตามกระบวนการพัฒนาระบบ SDLC โดยทดสอบระบบกับแบบจำลองโรงเรือนสุกรขนาดเล็กที่จำลองจากมีชัยฟาร์ม ตำบลโนนรัง อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา และประเมินประสิทธิภาพโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ที่ได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ระบบที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยแบบจำลองโรงเรือนสุกรพร้อมระบบควบคุมอัตโนมัติ ได้แก่ ระบบให้อาหาร ระบบพ่นน้ำลดอุณหภูมิ ระบบระบายอากาศ และระบบแสงสว่าง โดยสามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน Blynk และมีการแจ้งเตือนผ่าน LINE Notify 2) ผลการประเมินประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ในระดับดี โดยด้านการควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้รับการประเมินสูงสุดในระดับดีมาก รองลงมาคือด้านการออกแบบระบบ และด้านประสิทธิภาพการทำงาน ตามลำดับ

การลดปริมาณผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกระบวนการผลิตเครื่องประดับไทเทเนียม

เจนณรงค์ ถิ่นสุข, นิธิเดช คูหาทองสัมฤทธิ์ — Fri, 20 Jun 2025 00:00:00 +0700

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการลดปริมาณผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในกระบวนการผลิตต่างหูไทเทเนียมรุ่น Tita 0.5×1.2×08×4 โดยกระบวนการผลิตมีปัญหาความลึกของรูต่างหูแตกต่างจากมาตรฐานที่กำหนดไว้เท่ากับ 6 มิลลิเมตร ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากการตั้งค่าพารามิเตอร์ของเครื่องจักรที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ ความเร็วรอบเครื่องจักร อัตราป้อนมีด และอัตราการเจาะ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวงานวิจัยนี้ได้ใช้การออกแบบการทดลองเชิงแฟกทอเรียล 2^k เพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมของการตั้งค่าเครื่องจักร ผลการวิจัยพบว่าพารามิเตอร์ทั้งหมดมีอิทธิพลหลักและอิทธิร่วมต่อการเจาะรูต่างหู โดยควรกำหนดความเร็วรอบของเครื่องจักรที่ระดับ 3,750 รอบต่อนาที อัตราป้อนมีดที่ระดับ 0.0175 มิลลิเมตรต่อนาที อัตราการเจาะที่ระดับ 0.0628 มิลลิเมตรต่อรอบ เมื่อนำผลการวิจัยไปทดลองใช้จริงพบว่าสภาวะการผลิตที่เหมาะสมทำให้ค่าความลึกของรูต่างหูไม่แตกต่างจาก 6 มิลลิเมตรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การปรับค่าพารามิเตอร์ของเครื่องจักรทำให้ปริมาณเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหาความลึกของรูต่างหูไม่เป็นไปตามข้อกำหนดลดลงเหลือ 1,050 ชิ้นต่อเดือน คิดเป็นการลดลงร้อยละ 56.03 เมื่อเทียบกับก่อนการปรับปรุงกระบวนการผลิต ผลจากการปรับปรุงนี้ทำให้บริษัทมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยลดลง 43,013 บาทต่อเดือน ประโยชน์จากงานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการลดปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของเครื่องประดับอื่นและเป็นแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง

การพยากรณ์จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย

อรวรรณ สืบเสน, ธีรารัตน์ ไม้แก้ว — Fri, 20 Jun 2025 00:00:00 +0700

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างตัวแบบพยากรณ์ เปรียบเทียบตัวแบบการพยากรณ์ และเพื่อพยากรณ์จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ในไตรมาสที่ 1 ปี จนถึงไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2566 เทคนิคที่ใช้พยากรณ์จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย คือ วิธีปรับให้เรียบเอกซ์โพเนนเชียลของโฮลต์ วิธีการวิเคราะห์ถดถอยอย่างง่าย และวิธีปรับให้เรียบเอกซ์โพเนนเชียลของบราวน์ ซึ่งข้อมูลที่ศึกษาเป็นข้อมูลอนุกรมเวลารายไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2545 - ไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2565 จำนวน 84 ข้อมูล แบ่งข้อมูลเป็นสองชุด ชุดที่ 1 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี พ.ศ. 2545 - ไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2564 จำนวน 80 ข้อมูล ชุดที่ 2 ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 - ไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2565 จำนวน 4 ข้อมูล สำหรับเปรียบเทียบความแม่นยำของวิธีพยากรณ์โดยใช้เกณฑ์เปอร์เซ็นความคลาดเคลื่อนสัมบูรณ์เฉลี่ย ผลการวิจัย พบว่า วิธีปรับให้เรียบเอกโพเนนเชียลของบราวน์ มีค่าเฉลี่ย MAPE = 0.26 ซึ่งมีค่าน้อยกว่า 10 % ซึ่งอยู่ในเกณฑ์การพยากรณ์มีความถูกต้องสูง วิธีทำให้เรียบเอกโพเนนเชียลของบราวน์เป็นตัวแบบที่เหมาะสมสำหรับการพยากรณ์ ซึ่งมีค่าเฉลี่ย MAPE น้อยกว่าวิธีทำให้เรียบเอกโพเนนเชียลของโฮลต์และวิธีวิเคราะห์ถดถอยอย่างง่าย โดยมีตัวแบบ คือ = 120,814,584 – 68,468.1(m) เมื่อ m แทนจำนวนช่วงเวลาที่ต้องการพยากรณ์ไปข้างหน้า โดยมีค่าเริ่มต้น คือ ไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2566; m=1 ในการพยากรณ์จะได้ค่าพยากรณ์จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยล่วงหน้าดังนี้ 102,472,244, 120,403,775, 120,335,307, 120,266,839 คน การพยากรณ์จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยล่วงหน้า แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ลดลง

การศึกษาวิเคราะห์และเปรียบเทียบ No-Code AI สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์

สลิลทิพย์ ชีระภากร — Thu, 19 Jun 2025 00:00:00 +0700

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การนำ AI มาช่วยสร้างเว็บไซต์กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในปี 2024 เนื่องจากสามารถช่วยให้ผู้ใช้สร้างเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและไม่ต้องมีความรู้ทางด้านเทคนิคหรือการเขียนโค้ดมาก่อน การใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จึงกลายเป็นทางออกที่ง่ายและสะดวกสำหรับทั้งผู้ประกอบการและผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ในปี 2024 พบว่า WIX, Jimdo, และ Hostinger เป็น 3 แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกันแต่มีจุดเด่นในการช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเหมือนกัน โดย WIX โดดเด่นในเรื่องของความยืดหยุ่นในการออกแบบและฟังก์ชันที่หลากหลาย ส่วน Jimdo เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เน้นการใช้งานที่ง่ายและรวดเร็ว ในขณะที่ Hostinger เน้นการให้บริการเว็บโฮสติ้งในราคาย่อมเยาพร้อมเครื่องมือสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย ทั้งนี้ การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ควรพิจารณาจากฟีเจอร์ที่ตรงกับความต้องการ งบประมาณ และความสะดวกในการใช้งาน การอ่านรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้จริงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างเว็บไซต์