https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/issue/feed วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ 2024-06-26T15:01:15+07:00 รัชพล สันติวรากร ratchaphon@kku.ac.th Open Journal Systems <h4 style="text-align: left;"><strong><img src="/public/site/images/featkkuadmin/ปก1.png" width="699" height="409"><br></strong></h4> https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/250892 เครื่องคว้านเมล็ดเงาะระบบนิวแมติกส์ 2024-02-19T14:35:28+07:00 ร้อยทิศ ญาติเจริญ yart_3@hotmail.com ไกรสร รวยป้อม krisorn_ru@rmutto.ac.th ชาญณรงค์ ชูสุย yart_3@hotmail.com มนัสนันทน์ บุญปาลวงศ์ yart_3@hotmail.com <p> </p> <p>เครื่องคว้านเม็ดเงาะระบบนิวแมติกส์ มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบสมรรถนะและประเมินสมรรถนะของเครื่องคว้านเม็ดเงาะแบบกึ่งอัตโนมัติ ทดสอบผลเงาะที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 37-40 มิลลิเมตร ครั้งละ 20 ลูก ทำการทดสอบ 5 ซ้ำ ลักษณะทางกายภาพผลเงาะ มีค่าเฉลี่ย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39.08 ± 3.90 มิลลิเมตร ความสูง 50.28 ± 5.02 มิลลิเมตร น้ำหนักทั้งลูก 37.83 ± 3.78 กรัม เปลือกเงาะ 15.96 ± 1.59 กรัม เม็ดเงาะ 3.83 ± 0.38 กรัม และเนื้อเงาะ 12.54 ± 1.25 กรัม ผลการหาสมรรถนะการคว้านเม็ดเงาะ โดยเฉลี่ย เปลือกเงาะเฉลี่ย 42.09% เม็ดเงาะเฉลี่ย 10.18% เนื้อติดเม็ดเฉลี่ย 8.88% เนื้อเงาะเฉลี่ย 33.10% ค่าความสูญเสียเฉลี่ยได้ 5.80% ต่อน้ำหนักเงาะที่ใช้ในการทดสอบ ผลการประเมินสมรรถนะ อัตราความพร้อมการเดินเครื่อง 61.80% ประสิทธิภาพการเดินเครื่อง 98.33% ความสามารถในการผลิตอัตราคุณภาพ 88.99% ประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร 77.86% ความสามารถของเครื่อง 1,945.95 ลูกต่อชั่วโมง ประสิทธิภาพของเครื่อง 89%</p> <p> </p> 2024-06-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/251104 การออกแบบและพัฒนาเครื่องสับยอดอ้อยและต้นข้าวโพดเพื่อเป็นอาหารโคนม 2023-10-31T16:35:36+07:00 สุกัญญา ทองโยธี sukanya.tn@rmuti.ac.th อัปสรรัชย์ น้ำทรง sukanya.tn@rmuti.ac.th ชัยณรงค์ หล่มช่างคำ sukanya.tn@rmuti.ac.th ชวนันท์ ทองโยธี sukanya.tn@rmuti.ac.th <p>ผลการออกแบบเครื่องสับยอดอ้อยและต้นข้าวโพดเพื่อเป็นอาหารโคนม มีข้อมูลเบื้องต้นในการศึกษาลักษณะทางกายภาพของอ้อยพันธุ์มาร์กอสและข้าวโพดพันธุ์สุวรรณ ได้ถูกนำมาเป็นเงื่อนไขในการศึกษาเครื่องสับใช้เครื่องยนต์ติดรถไถเดินตามเป็นเครื่องต้นกำลัง โดยความเร็วรอบที่เหมาะสม 700 รอบ/นาที ที่ระดับการป้อน 3 กิโลกรัม มีขนาดความยาวผ่านการสับ 2.5 เซนติเมตร ความสามารถการสับยอดอ้อยและต้นข้าวโพด 607.10 และ 685.59 กิโลกรัม/ชั่วโมง เปอร์เซ็นต์การสูญเสีย 5 และ 5.7% ประสิทธิภาพการสับ 95 และ 94.3% ซึ่งการนำเครื่องสับยอดอ้อยไปใช้งานจริงจะสามารถช่วยลดต้นทุนแรงงาน ประหยัดเวลาในการเพิ่มผลผลิตได้จุดคุ้มทุน 47,825.55 กิโลกรัม/ปี ผลกำไร 324,266.78 บาท/ปี และสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลา 22 วัน เมื่อนำไปรับจ้างสับต้นข้าวโพดจะได้จุดคุ้มทุน 46,566.98 กิโลกรัม/ปี ผลกำไร 378,895.82 บาท/ปี และสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลา 19 วัน</p> 2024-06-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/253362 การเปรียบเทียบแบบจำลองที่ใช้ในการพยากรณ์ค่าความหวานของอ้อย 2024-03-27T14:54:09+07:00 ลลิตา ขำทอง lalita.kt@kkumail.com ศิโรรัตน์ พัฒนไพโรจน์ Lalita.kt@kkumail.com <p>ค่าความหวานของอ้อยเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อปัญหาด้านปริมาณการผลิตน้ำตาลของอุตสาหกรรมน้ำตาลและเกี่ยวข้องกับระบบการซื้อขายอ้อยของเกษตรกร บทความนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อค่าความหวานของอ้อยโดยใช้วิธีการถดถอยแบบขั้นบันได (Stepwise Regression) ซึ่งการศึกษานี้แบ่งปัจจัยที่ศึกษาออกเป็น 2 กรณี คือ กรณี 1 ศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวกับการปลูกอ้อย และกรณี 2 ศึกษาปัจจัยที่เกี่ยวกับการปลูกอ้อยร่วมกับปัจจัยที่เกี่ยวกับการดูแลระหว่างการปลูกอ้อย จากนั้นนำปัจจัยที่มีผลต่อ<br />ค่าความหวานของอ้อยมาสร้างแบบจำลองที่ใช้ในการพยากรณ์ค่าความหวานของอ้อย โดยใช้วิธีโครงข่ายประสาทเทียม (Artificial Neural Network: ANN) วิธีต้นไม้ตัดสินใจ (Decision Tree) และวิธีการสุ่มป่าไม้ (Random Forest) ร่วมกับแบ่งข้อมูลแบบตรวจสอบไขว้ (K-fold Cross-Validation) ผลการศึกษาพบว่า แบบจำลองที่ใช้ในการพยากรณ์ค่าความหวานของอ้อยที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่ แบบจำลองที่ถูกสร้างจากวิธีการสุ่มป่าไม้ รองลงมาคือวิธีต้นไม้ตัดสินใจ และวิธีโครงข่ายประสาทเทียม ตามลำดับ</p> 2024-06-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/252967 รูปแบบการจัดการสินค้าคงคลังที่อาศัยวิธีการเรียนรู้ของเครื่องสำหรับพยากรณ์ความต้องการในอุตสาหกรรมตะแกรงเหล็กไวร์เมช 2024-03-14T14:19:31+07:00 นนทพัทธ์ ศุกลกิจ nontapat_s@kkumail.com ศิรวดี อรัญนารถ sirawadee@kku.ac.th อาทิตย์ อภิโชติธนกุล arthap@kku.ac.th <p>ปัจจุบันการจัดการสินค้าคงคลังมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จและความยั่งยืนของธุรกิจ อีกทั้งความต้องการและราคาเหล็กในปัจจุบันมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ส่งผลให้งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอการจัดการสินค้าคงคลัง โดยอาศัยการพยากรณ์ยอดขายตะแกรงเหล็กไวร์เมช โดยทำการพยากรณ์สามวิธี ได้แก่ Holt-Winters, Random Forest และ XGBoost และใช้การแบ่งข้อมูลออกเป็นชุดเรียนรู้และชุดทดสอบ โดยแบ่งเป็นสองอัตราส่วน จากการเปรียบเทียบพบว่าวิธี Random Forest ให้ค่าความแม่นยำในการพยากรณ์สูงสุดที่อัตราส่วน 90:10 โดยมีค่าร้อยละความผิดพลาดสัมบูรณ์เฉลี่ย 4.50 เมื่อได้แบบจำลองการพยากรณ์ที่มีความแม่นยำแล้ว จึงนำข้อมูลความต้องการเข้ารูปแบบทางคณิตศาสตร์เพื่อวางแผนนโยบายสินค้าคงคลังแบบ (Q, r) และกำหนดนโยบายการสั่งซื้อวัตถุดิบ โดยเป็นการกำหนดการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุดและจุดสั่งซื้อใหม่เพื่อให้ ต้นทุนในการบริหารจัดการสินค้าต่ำที่สุด ผลจากรูปแบบทางคณิตศาสตร์พบว่าสามารถลดต้นทุนรวมของโรงงานในการวางแผนการจัดการนโยบายสินค้าคงคลังได้ถึงร้อยละ 4.75 และต้นทุนที่ได้จากข้อมูลการพยากรณ์ได้มีความใกล้เคียงกับค่าข้อมูลจริง</p> 2024-06-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/253252 การพัฒนาเครื่องตรวจจับกรวดหินในยางก้อนถ้วย 2024-03-19T14:54:50+07:00 พงศกร พรมอินทร์ pongsakorn2cj@gmail.com มิตรชัย จงเชี่ยวชำนาญ chongcheawchamnan@gmail.com สหพงศ์ สมวงค์ sahapong.s@rmutsv.ac.th <p>งานวิจัยนี้นำเสนอการพัฒนาเครื่องตรวจจับกรวดหินในยางก้อนถ้วย หลักการตรวจจับกรวดหินในยางก้อนถ้วยโดยใช้เทคนิคเนียร์อินฟราเรดสเปกโทรสโกปีความยาวคลื่นระหว่าง 700-2,500 นาโนเมตร และโหลดเซลล์ ซึ่งเป็นเทคนิคแบบไม่ทำลายตัวอย่างและตรวจได้รวดเร็วและแม่นยำ เพื่อช่วยในการคัดแยกยางก้อนถ้วยที่มีกรวดหินและทรายออกไปจากสายการผลิตยางเครพก่อนที่จะทำให้เครื่องรีดยางเครพเสียหาย ในงานวิจัยนี้ได้ศึกษาประสิทธิภาพในการตรวจจับสิ่งแปลกปลอมในยางก้อนถ้วยโดยทดลองกับแบบจำลองยางก้อนถ้วยจำนวน 40 ตัวอย่าง ขนาด 240 ลูกบาศก์เซนติเมตร น้ำหนัก 400 กรัม มีตัวอย่างทั้งหมด 40 ตัวอย่าง มีค่าความแม่นยำโดยรวมเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 82.5 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ร้อยละ 17.5 ซึ่งความคลาดเคลื่อนในการตรวจจับสิ่งแปลกปลอมจะอยู่ระหว่างช่วงของยางก้อนถ้วยที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอมและยางก้อนถ้วยที่มีสิ่งแปลกปลอมร้อยละ 10</p> 2024-06-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/253985 การประยุกต์ใช้ระบบต้นทุนฐานกิจกรรม เพื่อการวิเคราะห์ต้นทุนกระบวน การจัดเก็บสินค้าคงคลัง กรณีศึกษา: บริษัท XYZ 2024-05-08T12:41:37+07:00 พัฒนพงษ์ พลายแก้ว ppraykaw9@gmail.com วันพิชิต เบ็งจีน ppraykaw9@gmail.com <p>การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์กิจกรรม และต้นทุนของกระบวนการจัดเก็บสินค้าคงคลัง ด้วยระบบต้นทุนฐานกิจกรรม (Activity-Based Costing: ABC) กรณีศึกษา บริษัท XYZ ผลการศึกษาพบว่ากระบวนการจัดเก็บสินค้าคงคลังมีกิจกรรมหลักในการปฏิบัติงานทั้งหมด 4 กิจกรรมประกอบด้วย การรับสินค้าเข้าคลังสินค้า การขนย้ายสินค้าเข้าคลังสินค้า การจัดเก็บสินค้าภายในคลังสินค้า และการเคลื่อนย้ายสินค้าออกจากคลังสินค้า และผลการวิเคราะห์ต้นทุนของแต่ละกิจกรรมด้วยระบบต้นทุนฐานกิจกรรม (Activity-Based Costing: ABC) พบว่าต้นทุนรวมของกระบวนการจัดเก็บสินค้าคงคลังทั้ง 4 กิจกรรม มีค่า 88,038 บาทต่อเดือน ซึ่งกิจกรรมที่มีต้นทุนสูงที่สุดคือกิจกรรมการเคลื่อนย้ายสินค้าออกจากคลังสินค้า 27,808.81 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 31.59 ของต้นทุนรวมทั้ง 4 กิจกรรม รองลงมาคือต้นทุนกิจกรรมการจัดเก็บสินค้าภายในคลังสินค้า 26,538.22 บาทต่อเดือนคิดเป็นร้อยละ 30.14 ถัดมาคือต้นทุนกิจกรรมการขนย้ายสินค้าเข้าคลังสินค้า 21,434.40 บาทต่อเดือนคิดเป็นร้อยละ 24.35 และต้นทุนที่ต่ำที่สุดคือต้นทุนกิจกรรมการรับสินค้าเข้าคลังสินค้า 12,256.57 บาทต่อเดือนคิดเป็นร้อยละ 13.92</p> 2024-06-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/253889 การศึกษาความสามารถและเปรียบเทียบการลำเลียงมัดอ้อยขึ้นรถบรรทุก ระหว่างแรงงานคนกับเครื่องลำเลียงร่วมกับแรงงานคน 2024-05-07T13:50:40+07:00 ชัยณรงค์ หล่มช่างคำ Lomchangkum.C@hotmail.com ชัยยันต์ จันทร์ศิริ chaich@kku.ac.th ภัทรพงษ์ บุญนาดี Lomchangkum.C@hotmail.com อัษฎาวุฒิ ศรีน้อย Lomchangkum.C@hotmail.com ประยูร จอมหล้าพีรติกุล Lomchangkum.C@hotmail.com อาภาภรณ์ จอมหล้าพีรติกุล Lomchangkum.C@hotmail.com เดชาวัต มั่นกลาง Lomchangkum.C@hotmail.com ภูชิสส์ ตันวาณิชกุล Lomchangkum.C@hotmail.com ภานุวัฒน์ ทรัพย์ปรุง Lomchangkum.C@hotmail.com ประสิทธิ์ โสภา Lomchangkum.C@hotmail.com <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถและเปรียบเทียบการลำเลียงขึ้นรถบรรทุกระหว่างแรงงานคนกับเครื่องลำเลียงมัดอ้อยร่วมกับแรงงานคน กำหนดปัจจัยที่ทำการทดสอบความเร็วรอบลำเลียง 3 ระดับ คือ 10 12 และ 14 rpm ผลการทดสอบพบว่า ความเร็วรอบของโซ่ลำเลียงที่ 12 rpm มีความสามารถในการทำงานจริงได้มากที่สุด แต่เมื่อปรับเพิ่มความเร็วรอบของโซ่ลำเลียงที่ 14 rpm แรงงานคนที่ทำหน้าที่รับมัดอ้อยอยู่บนรถบรรทุกทำการจัดเรียงมัดอ้อยไม่ทัน แรงงานคนป้อนมัดอ้อยด้านล่างจึงต้องชะลอทำให้ความสามารถของระบบลำเลียงลดลง มีความสามารถในการทำงานจริงโดยเฉลี่ยเท่ากับ 6.40 tons/hr. ซึ่งสูงกว่าการใช้แรงงานคนที่มีความสามารถขนมัดอ้อยขึ้นรถบรรทุก 4 tons/hr. นอกจากนี้เมื่อวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ พบว่าค่าใช้จ่ายของการใช้เครื่องลำเลียงมัดอ้อยขึ้นรถบรรทุกร่วมกับแรงงานคนต่ำกว่าการใช้แรงงานคนเพียงอย่างเดียว โดยมีจุดคุ้มทุนและระยะเวลาคืนทุนอยู่ที่ 242.64 tons และ 28 วันทำงาน เมื่อใช้ความเร็วรอบของโซ่ลำเลียง 12 rpm</p> 2024-06-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/249275 แนวทางการพัฒนาโปรแกรมระบบอัตโนมัติในการควบคุมแบบซีเควนซ์ สำหรับระบบอัตโนมัติราคาประหยัด 2023-10-31T14:40:06+07:00 ชัชชล เปรมชัยสวัสดิ์ shutchon.pr@rmuti.ac.th ณรงค์ บุญเสนอ shutchon.pr@rmuti.ac.th กฤช ตราชู tashoo.krit@gmail.com ชาญชัย เหลาหา chanchai.la@rmuti.ac.th พิจิตร บัวระภา shutchon.pr@rmuti.ac.th <p>งานวิจัยนี้นำเสนอแนวทางการเขียนโปรแกรมสำหรับควบคุมระบบอัตโนมัติที่ออกแบบตามแนวคิดแผนภูมิสถานะเครื่องจักร ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์ และลดปัญหาความไม่สอดคล้องกันในการเขียนโปรแกรม ปรับปรุงความเข้าใจโค้ดโดยไม่คำนึงถึงภาษาโปรแกรม การทดลองแบ่งออกเป็นสองกรณีพิจารณควบคู่กัน ในกรณีแรก ภาษา C++ ใช้ในการเขียนโปรแกรมบนไมโครคอนโทรลเลอร์ ในกรณีที่สอง ภาษาแลดเดอร์ใช้ในการเขียนโปรแกรมบน PLC ซึ่งจะพัฒนาซอฟต์แวร์ตามข้อกำหนดของการแข่งขันสำหรับชุดฝึกอบรมของระบบการเจาะอัตโนมัติ MPU-A ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติตามแนวทางใหม่นี้ส่งผลให้คอนโทรลเลอร์ทั้งสองทำงานตามข้อกำหนดของระบบ โดยมีรูปแบบการเขียนโปรแกรมร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เวลาตอบสนองอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ของตัวควบคุม</p> 2024-06-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/246200 สร้างห้องเย็นราคาประหยัดโดยใช้ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วนชนิด R-22 2022-03-08T14:21:07+07:00 อภิชาติ อาจนาเสียว aapich@kku.ac.th ธัญสุภรัตน์ สาศรีเมือง aapich@kku.ac.th ชานุ โพธิพิทักษ์ aapich@kku.ac.th <p>ห้องเย็นราคาถูกขนาด 22.5 m<sup>3</sup> ถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน สารทำความเย็นเลือกเป็น R-22 ให้มีอุณหภูมิลดลงเหลือ 15 <sup>0</sup>C เพื่อรักษาความสดให้ผักและผลไม้ก่อนการบรรจุ ใช้น้ำและกล้วยเป็นโหลดความร้อน ทำการทดสอบอุณหภูมิและความดันของสารทำความเย็น ตรวจวัดกำลังไฟฟ้า เพื่อหา COP ตรวจอุณหภูมิในห้องเย็นและจับเวลา ผลการทดลอง พบว่า ความดันสารทำความเย็นด้าน low มีค่าช่วง 45-55 psig และในด้าน high อยู่ที่ 220-250 psig เมื่อใช้น้ำเป็นโหลด สามารถลดอุณหภูมิน้ำจาก 32 <sup>0</sup>C ลงมาที่ 28 <sup>0</sup>C ภายในเวลา 180 นาที ส่วนค่า COP ของระบบทำความเย็น ที่อุณหภูมิในห้องเย็นในช่วง 14-25 <sup>0</sup>C มีค่าในช่วง 4.2-6.7 เมื่อใช้กล้วยเป็นโหลด สามารถลดอุณหภูมิกล้วยจาก 28 <sup>0</sup>C ลงมาที่ 15 <sup>0</sup>C ภายในเวลา 130 นาที ส่วนค่า COP ของระบบทำความเย็น ที่อุณหภูมิในห้องเย็นในช่วง 15-24 <sup>0</sup>C มีค่าในช่วง 4.1-6.2 มีราคาประมาณ 60,000 บาท</p> 2024-06-26T00:00:00+07:00 Copyright (c) 2024 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ