https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/issue/feed วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ 2025-06-21T16:32:19+07:00 รัชพล สันติวรากร ratchaphon@kku.ac.th Open Journal Systems <h4 style="text-align: left;"><strong><img src="/public/site/images/featkkuadmin/ปก1.png" width="699" height="409"><br></strong></h4> https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/256236 การศึกษาการผลิตชีวมวลจากผักตบชวาผสมเปลือกมังคุด 2024-11-05T13:20:49+07:00 กฤษณะ นาวารัตน์ kritsana_na@rmutto.ac.th บุญฤทธิ์ บัวระบัติ kritsana_na@rmutto.ac.th สุรพงษ์ โซ่ทอง kritsana_na@rmutto.ac.th อัคฆพงศ์ สถาวรินทุ kritsana_na@rmutto.ac.th บุราณี ระเบียบ kritsana_na@rmutto.ac.th เกษม หมั่นธรรม kritsana_na@rmutto.ac.th ไกรสร รวยป้อม krisorn_ru@rmutto.ac.th <p>การผลิตชีวมวลจากผักตบชวามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะทางกายภาพคุณสมบัติทางความร้อนและความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์จากผักตบชวาผสมเปลือกมังคุด ในการผลิตมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 mm และมีความยาวของแท่งชีวมวลระหว่าง 10-50 mmในการผลิตชีวมวลจากผักตบชวาจะมีอยู่ 2 สูตร คือ สูตรไม่ผสมผงถ่านมังคุด กับสูตรที่ผสมผงถ่านมังคุด มีอัตราส่วนในการผสม คือ 1:4 จากการทดสอบหาค่าความร้อนพบว่า ชีวมวลแบบแห้งไม่ผสมผงถ่านลดความชื้น ให้ค่าความร้อนสูงสุดคือ 5,102.21 cal/g จากการทดสอบค่าความแข็งแรงชีวมวลแบบไม่ผสมผงถ่านลดความชื้นมีความแข็งแรงสูงที่สุดคือ 10 Kg/cm<sup>2</sup> การทดสอบเวลาในการจุดติดไฟแบบผสมถ่านลดความชื้นให้เวลาในการจุดติดไฟนานที่สุดคือ 53.47 min การทดสอบอุณหภูมิในการจุดติดไฟแบบไม่ผสมผงถ่านลดความชื้นมีค่าสูงที่สุด คือ 99 องศาเซลเซียส จากการวิเคราะห์ปริมาณเถ้าของแบบไม่ผสมถ่านลดความชื้นมีค่าน้อยที่สุด คือ 5.23% การวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์มีความคุ้มค่าที่ 5 ปี 7 เดือน 20 วัน</p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/257740 เครื่องปอกเปลือกทุเรียนระบบไฮดรอลิกส์แบบกึ่งอัตโนมัติ 2025-03-03T16:20:49+07:00 ไกรสร รวมป้อม krisorn_ru@rmutto.ac.th บุญฤทธิ์ บัวระบัติ krisorn_ru@rmutto.ac.th มนัสนันทน์ บุญปาลวงศ์ krisorn_ru@rmutto.ac.th <p>การทดสอบเครื่องปอกเปลือกทุเรียนระบบไฮดรอลิกส์แบบกึ่งอัตโนมัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบหาความสามารถของเครื่องและความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ผลการทดสอบทุเรียนสายพันธุ์หมอนทองที่มีน้ำหนักระหว่าง 2.5 ถึง 6 กิโลกรัม เส้นรอบวงระหว่าง 50-70 เซนติเมตร จำนวน 30 ลูก พบว่า การปอกทุเรียนหมอนทองแบบ ดิบ ใช้เวลาเฉลี่ย 18.68 วินาที ทุเรียนหมอนทองแบบ ปลิงแง้ม (เกือบสุก) ใช้เวลาเฉลี่ย 18.34 วินาที และทุเรียนหมอนทองแบบสุก ใช้เวลาเฉลี่ย 18.45 วินาที และความสามารถเฉลี่ยในการปอกทุเรียนหมอนทองแบบ ดิบ มีค่า 189.47 ลูกต่อชั่วโมง ความสามารถเฉลี่ยในการปอกทุเรียนหมอนทองแบบ ปลิงแง้ม (เกือบสุก) มีค่า 173.66 ลูกต่อชั่วโมง และความสามารถเฉลี่ยในการปอกทุเรียนหมอนทองแบบสุก มีค่า 195.12 ลูกต่อชั่วโมง ลักษณะทางกายภาพพบว่าการปอกทุเรียนแบบสุกสามารถปอกได้ดีและเหมาะสมกับเครื่องปอกที่สุด มีระยะเวลาคืนทุนของเครื่องจักรอยู่ที่ 1.6 เดือนและมีจุดคุ้มทุนอยู่ที่ 79.6 ชั่วโมงต่อปี</p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/259263 ระบบหยิบไข่ไก่อัตโนมัติด้วยแขนกลควบคุมจากการเรียนรู้ของเครื่อง และการเรียนรู้เชิงลึกในฟาร์มไก่แบบปล่อยอิสระ 2025-05-15T22:35:04+07:00 อภิวัตร บุญกอง apiwat.boon@npu.ac.th อุมาภรณ์ ผิวชมพู apiwat.boon@npu.ac.th จินดารัตณ์ พิกุลศรี apiwat.boon@npu.ac.th <p>งานวิจัยนี้เป็นการนำเสนอการใช้ระบบแขนกลหยิบไข่ไก่ โดยคำนวณการทำงานและควบคุมมอเตอร์แขนกลผ่านการใช้เทคนิคการเรียนรู้ของเครื่อง ร่วมกับกล้องสามมิติประกอบการระบุตำแหน่งแบบอัตโนมัติจากวิธีการเรียนรู้เชิงลึก (YOLOv5s) ซึ่งภาพรวมของงานวิจัยเป็นการจำลองการหยิบเก็บไข่ไก่ ในสภาพแวดล้อมที่มีการเลี้ยงไก่แบบปล่อยอิสระและสร้างรังไข่ไว้สำหรับให้ไก่ไข่โดยเฉพาะ งานวิจัยสามารถนำไปต่อยอดในการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์สำหรับเดินเก็บไข่ไก่ในสถานการณ์ต่าง ๆ ต่อไปได้ โดยในงานวิจัยแสดงให้เห็นถึงผลของประสิทธิภาพของการใช้การเรียนรู้ของเครื่องในการหยิบไข่ไก่ของแขนกล และความถูกต้องของตำแหน่งไข่ไก่จากโมเดลการเรียนรู้เชิงลึก รวมถึงปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นในการทดลองการหยิบจับไข่ไก่ด้วย และจากการทดลองในกรณีที่มีโนดซ่อนของโมเดลการเรียนรู้ของเครื่องที่แตกต่างกัน แขนกลหยิบไข่สามารถหยิบไข่ไก่ได้อย่างถูงต้องในช่วงร้อยละ 75-90</p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/259146 การจำลองแรงกระทำและการเสียรูปของใบตีเครื่องสกัดเส้นใยจากกาบกล้วยด้วย วิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ 2025-05-14T11:42:41+07:00 ธีรเตชินทร์ เลิศรักษ์วรกุล theeratechin59@gmail.com วีระพล แก้วก่า theeratechin59@gmail.com อดิศักดิ์ บุตรวงษ์ theeratechin59@gmail.com คมสัน ตันติชูเกียรติ theeratechin59@gmail.com ธวัชชัย สีลาโส theeratechin59@gmail.com อภิชาติ ศรีชาติ theeratechin59@gmail.com กวีพงษ์ หงษ์ทอง theeratechin59@gmail.com <p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจำลองแรงกระทำและการเสียรูปของใบตีเครื่องสกัดเส้นใยจากกาบกล้วย โดยใช้วิธีไฟไนต์เอลิเมนต์ (Finite Element Method) เพื่อเปรียบเทียบใบตี 3 แบบ ได้แก่ แบบ 5 ใบ, 13 ใบ และ 32 ใบ ตลอดจนวิเคราะห์ความเค้น Von Mises, การเสียรูป, ความปลอดภัย (FoS) และอายุการใช้งานจากความเมื่อยล้าของใบตีในแต่ละแบบ ผลการทดลองพบว่า ใบตีแบบ 5 ใบมีค่าความเค้นต่ำสุดที่ 6.4 MPa และค่าความปลอดภัยสูงสุด (FoS Goodman = 12.87, FoS Soderberg = 12.42, FoS ทั่วไป = 4.69) พร้อมด้วยอายุการใช้งานจากความเมื่อยล้าสูงถึง 2.80 × 10²¹ รอบ ในขณะที่ใบตีแบบ 13 ใบและ 32 ใบมีค่าความเค้นสูงกว่าแต่กระจายแรงได้ดีกว่าและมีการเสียรูปน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ใบตีทั้งสามแบบยังคงอยู่ในช่วงเชิงยืดหยุ่นของวัสดุ ผลการศึกษานี้ช่วยสนับสนุนการออกแบบใบตีที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง พร้อมทั้งชี้แนะแนวทางการปรับปรุงรูปทรงเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดความเค้นสะสมในอนาคต</p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/259243 การออกแบบโปรแกรมเมเบิลลอจิกคอนโทรลเลอร์ในการควบคุมระบบอัตโนมัติ ของหุ่นยนต์และเครื่องคัดแยกชิ้นงานนิวเมติกส์ 2025-05-14T09:57:57+07:00 ปิยะวัฒน์ ศรีธรรม sritram_1111@hotmail.com ธนวัฒน์ ลับแล Sritram_1111@hotmail.com เพียว รุน ชอร์ Sritram_1111@hotmail.com ทศพร แจ่มใส Sritram_1111@hotmail.com <p>บทความนี้นำเสนอการประยุกต์ใช้โปรแกรมเมเบิลลอจิกคอนโทรลเลอร์ เพื่อควบคุมระบบนิวเมติกส์ในการคัดแยกชิ้นงานอัตโนมัติ โดยในเครื่องคัดแยกชิ้นงานนี้ได้ใช้ไฟเบอร์ออปติกเซนเซอร์ (Fiber Optic) ในการตรวจ จับสีของวัสดุและอินดักทีฟพร็อกซิมิตี้เซนเซอร์ (Inductive Proximity Sensors) ในการตรวจจับชิ้นงานที่เป็นโลหะ ซึ่งวัสดุมีสีที่ต่างกันสามสี ดังนี้คือ สีเงิน (อลูมิเนียม) สีเหลือง (ซุปเปอร์ลีนสีเหลือง) และสีดำ (ซุปเปอร์ลีนสีดำ) และรีดสวิตช์ (Reed Switch) ทำหน้าที่ในการตรวจจับตำเหน่งของกระบอกสูบ การทำงานของเซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณอินพุตไปยังพีแอลซี เพื่อทำการประมวลผลตามโปรแกรมที่ได้กำหนดไว้ในเครื่อง แล้วส่งสัญญาณเอาต์พุตตามเงื่อนไขไปควบคุมควบคุมสัญญาณไฟฟ้าและวาล์วควบคุมทิศทางลมเพื่อทำการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์นิวเมติกส์ได้อย่างอัตโนมัติ ผลการทดสอบการใช้งานจะแสดงให้เห็นว่าเครื่องสามารถทำการแยกสีและเอาวัสดุไปจัดเก็บได้อย่างถูกต้องตามเงื่อนไขที่ได้กำหนด เครื่องจักรเริ่มทำงานที่ความดันลม 4.0 บาร์ ค่าเวลาที่ใช้ทดสอบในการทำงานเฉลี่ยรวมต่อชิ้นคือ 25.20 วินาที และความดันลมสูงสุดที่ 7.0 บาร์ ค่าเวลาในการทำงานเฉลี่ยรวมต่อชิ้นคือ 18.19 วินาที สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีข้อผิดพลาดจากงานวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ในการสร้างหุ่นยนต์หรือระบบการให้อาคารสัตว์ในฟาร์มแบบอัตโนมัติ</p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/259458 การศึกษาคุณสมบัติทางความร้อนถ่านอัดแท่งจากเปลือกทุเรียน 5 สายพันธุ์ 2025-05-26T12:05:12+07:00 บุญฤทธิ์ บัวระบัติ boonyarid_buarabut@hotmail.com ไกรสร รวยป้อม boonyarid_buarabut@hotmail.com อัคฆพงศ์ สถาวรินทุ boonyarid_buarabut@hotmail.com สุรพงษ์ โซ่ทอง boonyarid_buarabut@hotmail.com <p>จากการศึกษาคุณสมบัติถ่านอัดแท่งจากเปลือกทุเรียน 5 สายพันธุ์ ด้วยเครื่องอัดแท่งชีวมวลแบบกึ่งอัตโนมัติ &nbsp;&nbsp;ที่ความเร็วรอบ 290 rpm ซึ่งเป็นความเร็วรอบในการอัดแท่งที่ดีที่สุด โดยมีค่าความสามารถในการอัดแท่ง &nbsp;&nbsp;84.7 kg h<sup>-1</sup> หรือประมาณ 692 kg day<sup>-1</sup> มีประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรโดยรวม (OEE) 97.38% &nbsp;ลักษณะทางกายภาพของแท่งถ่านมีขนาดความกว้าง 5 cm ยาว 10 cm รูกลวงด้านใน 1 cm มีค่าความร้อนระหว่าง 5,117-5,656 cal g<sup>-1</sup> โดยเปลือกทุเรียนสายพันธุ์ชะนี ให้ค่าความร้อนสูงสุดที่ 5,656 cal g<sup>-1</sup> สำหรับ Moisture content, Volatile matter, Ash content, และ Fixed carbon เป็นไปตามมาตรฐาน มผช.238/2547 &nbsp;และทำการทดสอบต้มน้ำสามารถทำให้น้ำปริมาตร 1,000 ml มีอุณหภูมิสูงสุด 91 ºc ในช่วงระยะเวลา 26-34 minutes มีระยะเวลาคืนทุนของเครื่องจักรอยู่ที่ 105.14 days และมีจุดคุ้มทุนอยู่ที่ 210.60 h year<sup>-1</sup></p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/featkku/article/view/259237 การสังเคราะห์และวิเคราะห์ลักษณะของอนุภาคนาโนซิงค์ออกไซด์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยใช้สารสกัดจากใบสะเดา (Azadirachta indica) เพื่อประยุกต์ใช้ในนาโนเทคโนโลยีทางการเกษตรอย่างยั่งยืน 2025-05-28T11:55:30+07:00 Suttirak Pairoj suttirak_sp@npu.ac.th บัณฑิต บุญขาว suttirak_sp@npu.ac.th <p>This study presents a sustainable method for synthesizing zinc oxide nanoparticles (ZnO NPs) using aqueous leaf extracts of <em>Azadirachta indica</em> (Margosa), serving as natural reducing and capping agents. The green synthesis approach aligns with environmentally conscious practices by eliminating harmful chemicals and minimizing toxic byproducts. The physicochemical characteristics of the ZnO NPs were thoroughly investigated using established analytical techniques. UV-Vis spectroscopy identified a distinct absorption peak at 363 nm, and the direct band-gap energy was calculated as 3.4 eV. FTIR analysis confirmed the involvement of biomolecules, such as proteins, aromatic compounds, and alcohols, in the reduction and stabilization processes. SEM imaging revealed the formation of agglomerated nanoparticles, while EDX confirmed the elemental composition of zinc and oxygen. DLS measurements estimated the average particle size to be approximately 47.2 nm. The results support the viability of using agricultural plant-based materials for the eco-friendly and cost-efficient production of metal oxide nanoparticles, contributing to advancements in green nanotechnology within agricultural and farm engineering applications.</p> 2025-06-21T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิศวกรรมฟาร์มและเทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติ