https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/rmutk/issue/feedวารสารวิจัย มทร. กรุงเทพ2023-07-13T13:12:17+07:00ดร.ดิเรก บุญธรรมutk_research_journal@mail.rmutk.ac.thOpen Journal Systems<p>วารสารวิจัย มทร.กรุงเทพ <strong>Print</strong> <strong>ISSN</strong> 1906-0874 <strong>Online</strong> ISSN 2651-2130 สาขาวิชาของวารสารสหวิทยาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นวารสารวิชาการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนา ได้มีการจัดทำวารสารอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานมากกว่า 7 ปี จนถึงปัจจุบันเผยแพร่เป็นราย 6 เดือน ซึ่งเผยแพร่ปีละ 2 ฉบับ และมีการดำเนินงานจัดพิมพ์บทความประเภทต่าง ๆ ได้แก่ บทความวิจัยและบทความวิชาการ</p>https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/rmutk/article/view/248680ผลของสารสะท้อนน้ำต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์จากผ้าไหมทอมือ2023-03-16T13:39:10+07:00พิชญา ศรีวิเศษ lodila3210@gmail.comขนิษฐา เจริญลาภKhanitc@gmail.com<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์กระเป๋าจากผ้าไหมทอมือที่ตกแต่งสำเร็จสะท้อนน้ำ ดำเนินการวิจัยโดยศึกษาสภาวะที่เหมาะสมและสมบัติของผ้าไหมทอมือที่ตกแต่งสำเร็จด้วยสารสะท้อนน้ำสองชนิด ได้แก่ สารสะท้อนน้ำฟลูออโรคาร์บอน (FC) และสารสะท้อนน้ำปราศจากฟลูออโรคาร์บอน (FCF) ออกแบบและผลิตต้นแบบผลิตภัณฑ์กระเป๋าจากผ้าไหมทอมือที่ตกแต่งสำเร็จสะท้อนน้ำ รวมทั้งศึกษาความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ผลการวิจัยพบว่าสภาวะที่เหมาะสมในการตกแต่งสะท้อนน้ำของสารทั้งสองชนิดเป็นสภาวะเดียวกัน คือ ใช้ความเข้มข้น 70 กรัมต่อลิตร บีบอัดผ้าด้วยลูกกลิ้งที่มีค่าร้อยละการบีบอัดเท่ากับ 75 อบแห้งที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส เวลา 2 นาที ทำปฏิกิริยาที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส เวลา 2 นาที ผ้าที่ตกแต่งด้วยสาร FCF มีสมบัติที่ดีกว่าผ้าที่ตกแต่งด้วยสาร FC ในเรื่องของการสะท้อนน้ำ ความเข้มสีบนผ้า และความคงทนต่อแรงฉีกขาด ส่วนผ้าที่ตกแต่งด้วยสาร FC มีสมบัติที่ดีกว่าผ้าที่ตกแต่งด้วยสาร FCF ในเรื่องความคงทนต่อการซัก โดยผ้าที่ตกแต่งด้วยสาร FCF มีค่ามุมสัมผัส 141.17 องศา ความเข้มสีบนผ้า 20.81 ความทนต่อแรงฉีกขาดในแนวเส้นด้ายพุ่ง 97.47 นิวตัน แนวเส้นด้ายยืน 63.6 นิวตัน มีความคงทนต่อการซัก 3 รอบ ส่วนผ้าที่ตกแต่งด้วยสาร FC มีค่ามุมสัมผัส 135.3 องศา ความเข้มสีบนผ้า 13.6 ความทนต่อแรงฉีกขาดในแนวเส้นด้ายพุ่ง 97.03 นิวตัน แนวเส้นด้ายยืน 60.57 นิวตัน มีความคงทนต่อการซักมากกว่า 5 รอบ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กระเป๋าเลือกใช้สารสะท้อนน้ำประเภท FCF เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องการซักบ่อยครั้งและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ผลการประเมินแบบความพึงพอใจในต้นแบบผลิตภัณฑ์จากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 152 คน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์กระเป๋าผ้าไหมทอมือที่มีสมบัติสะท้อนน้ำในระดับมาก โดยมีความพึงพอใจด้านความสวยงาม ด้านความเหมาะสมของวัสดุ ด้านประโยชน์การใช้สอย และด้านความสะดวกในการบำรุงรักษา เท่ากับ 4.43±0.76, 4.34±0.77, 4.38±0.74 และ 4.38± 0.75 ตามลำดับ</p>2023-06-30T00:00:00+07:00Copyright (c) 2023 วารสารวิจัย มทร. กรุงเทพhttps://ph02.tci-thaijo.org/index.php/rmutk/article/view/248561ประสิทธิภาพการลดการปนเปื้อนของไกลโฟเสตในดินด้วยจุลินทรีย์คัดสายพันธุ์2023-02-21T12:51:48+07:00พรจิรา การภักดีapichaya.s@vru.ac.thศศิธร หาสินapichaya.s@vru.ac.thอนัญญา โพธิ์ประดิษฐ์ananya.po@vru.ac.thอภิชญา สวัสดีapichaya.s@vru.ac.th<p> งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาประสิทธิภาพการลดการปนเปื้อนของไกลโฟเสตในดินด้วยจุลินทรีย์คัดสายพันธุ์ ประกอบด้วย<em> Pediococcus </em>sp. <em>Bacillus subtilis </em>และ <em>Bacillus licheniformis</em> โดยในการดำเนินงานวิจัยจะทำการวิเคราะห์สมบัติทางกายภาพและสมบัติทางเคมีของดินที่นำมาใช้ในงานวิจัย จากนั้นวิเคราะห์ประสิทธิภาพการลดการปนเปื้อนของไกลโฟเสตในดิน ออกแบบการทดลองโดยแปรผันความเข้มข้นของไกลโฟเสตเพื่อติดตามความเปลี่ยนแปลง เป็นระยะเวลา 7 วัน จากนั้น เก็บตัวอย่างดินเพื่อไปวิเคราะห์ปริมาณของไกลโฟเสตด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโตกราฟี (Gas Chromatography: GC) และนำมาคำนวณประสิทธิภาพการลดการปนเปื้อนของไกลโฟเสต จากผลการวิจัยพบว่า คุณสมบัติดินที่ใช้ในการวิจัยมีลักษณะเป็นดินเหนียว และค่าอินทรีย์วัตถุในดินตัวอย่างมีปริมาณ 26 กรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าพีเอช 6.58 ซึ่งเป็นกรดอ่อน ในส่วนการลดการปนเปื้อนของไกลโฟเสตนั้นพบว่า เมื่อใช้ปริมาณของจุลินทรีย์คัดสายพันธุ์ 10 กรัม และความเข้มข้นของไกลโฟเสต 240 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมนั้น จะให้ประสิทธิภาพการกำจัดไกลโฟเสตมากกว่าการใช้ความเข้มข้นของไกลโฟเสต 120 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม คือ ร้อยละ 91.69 และ ร้อยละ 90.81 ตามลำดับ ดังนั้น จากงานวิจัยนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการไกลโฟเสตที่ตกค้างในดินที่เกิดขึ้นในภาคเกษตรโดยใช้จุลินทรีย์คัดสายพันธุ์ จากงานวิจัยนี้ได้อีกด้วย </p>2023-06-30T00:00:00+07:00Copyright (c) 2023 วารสารวิจัย มทร. กรุงเทพhttps://ph02.tci-thaijo.org/index.php/rmutk/article/view/247711Development of 4-DoF Robotic Arm Control System with Voice Command for Grasp Assistance2022-12-14T10:40:56+07:00Teerawit Assawasillapakulteerawit.as@bsru.ac.thNutdanai Singkhleewonmar6666@hotmail.comKanlaya Thanasinkanlayathanasin@gmail.com<p>The objective of this research was to develop and examine the robotic arm system and speech recognition system controlled by microcontroller for object grasp control with voice command. The efficiency tests were movement efficiency of robotic arm, efficiency of speech recogniton system, and performance of robotic arm control with voice commands.</p> <p>The results revealed that robotic arm control with voice command system has the efficiency of robotic arm joints control for accurate movements in workspace as designed with 4 joints. In the speech recognition system, 10 voice commands were remembered to encode to the robotic arm control system efficiently with more than 90% accuracy. In consequence, the system that was developed can be used for grasp tasks in a robot workspace.</p>2023-06-30T00:00:00+07:00Copyright (c) 2023 วารสารวิจัย มทร. กรุงเทพhttps://ph02.tci-thaijo.org/index.php/rmutk/article/view/248707Development of Prototypical Indoor Real-time Location System for Medical Equipment Management Based on BLE Devices2023-04-05T09:34:27+07:00Teerawit Assawasillapakulteerawit.as@bsru.ac.thNutdanai Singkhleewonmar6666@hotmail.comKanlaya Thanasinkanlayathanasin@gmail.comAmonrat Khambunamonratja@hotmail.com<p>Generally, healthcare is considered the fastest growing business and largest service industry in the world. However, hospitals are typically large buildings with various equipment spread over multiple floors. The positioning and tracking of assets in indoor environments have great potential to assist staff in locating needed equipment without wasting time searching for it. Therefore, this research proposes the development of the prototypical indoor real-time location system (RTLS) based on Bluetooth Low-Energy technology devices for any equipment tracking in test scenario. The ESP32 microcontroller is used as the transceiver node in each room to receive the MAC address of the HM-10 beacon attached to the equipment within range and transmit data to a web server. A data filter is applied to reduce noise from Received Signal Strength value for distance between node and beacon calculation. The efficiency test results show that the average distance error between beacon and node is around 3 m, and the maximum duration of location updating from node to node in the scenario is no more than 15 seconds. It can be concluded that if equipment with beacon is in the tracking area of the node, then the presence status of the equipment in each room can be correctly transmitted to the web server.</p>2023-06-30T00:00:00+07:00Copyright (c) 2023 วารสารวิจัย มทร. กรุงเทพhttps://ph02.tci-thaijo.org/index.php/rmutk/article/view/248682วิธีการจัดสรรตารางกับการแก้ปัญหาการขนส่งแบบฟัซซี่สหัชญาณ2023-03-08T10:03:34+07:00ดรุณี หันวิสัยsend2darunee3790@gmail.com<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาการขนส่งแบบฟัซซี่สหัชญาณ (Intuitionistic fuzzy transportation) เมื่อค่าใช้จ่ายในการขนส่งมีความคลุมเครือหรือมีความไม่แน่นอน ผู้วิจัยได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาการขนส่งแบบฟัซซี่สหัชญาณ ภายใต้ตัวเลขแบบฟัซซี่สหัชญาณสามเหลี่ยม (Triangular intuitionistic fuzzy number) ใช้วิธีเซนทรอยด์ของตัวเลขฟัซซี่ (Centroid of fuzzy number) ในการหาค่าที่เป็นตัวแทนของตัวเลขแบบฟัซซี่สหัชญาณสามเหลี่ยม จากนั้นหาผลลัพธ์เบื้องต้น (Basic feasible solution) สำหรับการหาค่าใช้จ่ายในการขนส่งโดยใช้วิธีการจัดสรรตาราง (Allocation table method) นอกจากนี้ได้ทำการตรวจสอบและปรับปรุงค่าใช้จ่ายในการขนส่งให้น้อยที่สุดด้วยวิธีการกระจายแบบดัดแปลง (Modified distribution method) ผลการศึกษาพบว่าวิธีที่นำเสนอภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีความคลุมเครือ สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องและเหมาะสมได้</p>2023-06-30T00:00:00+07:00Copyright (c) 2023 วารสารวิจัย มทร. กรุงเทพhttps://ph02.tci-thaijo.org/index.php/rmutk/article/view/249571เครื่องควบคุมตู้ปลาอัตโนมัติด้วยไอโอที2023-05-29T14:04:44+07:00สุรเทพ แป้นเกิดsuratep.p@mail.rmutk.ac.thสุภษี ดวงใสsupasee.d@mail.rmutk.ac.th<p>การวิจัยนี้เป็นการพัฒนาพัฒนาเครื่องควบคุมตู้ให้อาหารปลาอัตโนมัติด้วยไอโอที เพื่อเพิ่ม ความสะดวก ควบคุมปริมาณการให้อาหาร และลดเวลาในการเฝ้าสังเกตปลา เครื่องต้นแบบที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยสองส่วนหลักคือ 1) เครื่องควบคุมตู้ปลาอัตโนมัติ และ 2) แอปพลิเคชั่นการใช้งานเครื่องให้อาหารปลา วัดคุณภาพของน้ำ และระบบเฝ้าสังเกตพฤติกรรม โดยเครื่องควบคุมตู้ปลาอัตโนมัติการออกแบบเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ไมโครคอนโทรลเลอร์ NodeMCU ระบบ servo moter ปล่อยอาหาร ชุดเซนเซอร์วัดระดับอาหาร ชุดเซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพน้ำเซ็นเซอร์ TDS และชุดโมดูลกล้อง ส่วนแอปพลิเคชั่นการให้อาหารออกแบบใน 2 ฟังก์ชัน คือ การควบคุมด้วยตนเองและระบบอัตโนมัติโดยแอปพลิเคชั่นให้อาหารปลาแบบ 3 เวลา สื่อทั้งสองสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยเซิร์ฟเวอร์ Blynk การทดลองพบว่าประสิทธิภาพในการให้อาหารปลาใน 3 เวลาไม่มีความผิดพลาด และอาหารที่ปล่อยในแต่ละครั้งมีปริมาณ 1 กรัม คิดเป็น 81 เปอร์เซ็น ซึ่งเป็นปริมาณที่พอเหมาะสำหรับการกินอาหารของปลา ดังนั้น เครื่องควบคุมตู้ให้อาหารปลาอัตโนมัติด้วยไอโอทีสามารถใช้เป็นต้นแบบเครื่องให้อาหารปลา และประยุกต์ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์การผลิตเชิงพาณิชย์</p>2023-06-30T00:00:00+07:00Copyright (c) 2023 วารสารวิจัย มทร. กรุงเทพhttps://ph02.tci-thaijo.org/index.php/rmutk/article/view/249682การศึกษาประสิทธิภาพการเจาะรูด้วยกระบวนการกัดเซาะด้วยไฟฟ้าของรอยเชื่อม เหล็กกล้าเครื่องมือ เกรด AISI P202023-06-22T13:11:07+07:00สมชาย วนไทยสงค์somchai.wo@mail.rmutk.ac.thเอนก สุทธิฤทธิ์Pichai.j@mail.rmutk.ac.thเอกชัย รอดพิสาPichai.j@mail.rmutk.ac.thเถลิง พลเจริญponjaroen@yahoo.comพิชัย จันทร์มณีPichai.j@mail.rmutk.ac.th<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่เหมาะสมในการเจาะรูด้วยกระบวนการกัดเซาะด้วยไฟฟ้า (EDM) สำหรับวัสดุเหล็กกล้าเครื่องมือ เกรด AISI P20 ที่ผ่านการเชื่อมซ่อมด้วยการเชื่อมไฟฟ้า (SMAW) และการเชื่อมอาร์กโลหะด้วยแก๊ส (GMAW) ด้วยการใช้อิเล็กโทรดทองเหลืองและทองแดง ภายใต้การปรับค่ากระแสไฟฟ้า 3 ระดับ ได้แก่ 2.5, 3 และ 3.5 แอมแปร์ จากนั้นประเมินผลประสิทธิภาพการทำงานในรูปของอัตราการขจัดเนื้องาน (MRR) อัตราการสึกหรอของอิเล็กโทรด (EWR) ความหยาบผิว (Ra) และลักษณะรูเจาะเข้า-ออก ตามลำดับ ผลการทดลองพบว่ารูเจาะของรอยเชื่อม SMAW ที่ถูกสปาร์คด้วยอิเล็กโทรดทองเหลืองมีอัตราการขจัดเนื้องานสูงสุด 22.439 มม.<sup>2</sup>/นาที และอัตราการสึกหรอของอิเล็กโทรด 98% ที่ใช้กระแสไฟฟ้า 3 แอมแปร์ สำหรับรอยเชื่อม GMAW ที่ถูกสปาร์คด้วยอิเล็กโทรดทองแดงมีความหยาบผิวเฉลี่ยต่ำสุดเท่ากับ 4.0198 ไมโครมิเตอร์ ที่ใช้กระแสไฟฟ้า 3.5 แอมแปร์ ลักษณะรูเจาะของทั้งสองรอยเชื่อม SMAW และ GMAW จากการใช้อิเล็กโทรดทั้งสองประเภทและทั้งหมดของการปรับค่ากระแสไฟฟ้ามีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางรูเข้ามากกว่า 1 มม. และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางรูออกน้อยกว่า 1 มม.</p>2023-06-30T00:00:00+07:00Copyright (c) 2023 วารสารวิจัย มทร. กรุงเทพhttps://ph02.tci-thaijo.org/index.php/rmutk/article/view/249729การควบคุมคลังเวชภัณฑ์โดยกำหนดปริมาณการเบิกเวชภัณฑ์ที่หมาะสม ตามงบประมาณประจำปีด้วยสเปรดชีท กรณีศึกษา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล2023-06-27T11:58:38+07:00ประภาพรรณ เกษราพงศ์prapapan@eng.src.ku.ac.thจักรินทร์ กลั่นเงินjakkarin.k@ku.thคัมภีร์ราญา ลือศักดิ์kumpreraya.l@ku.thธนพร ฉายสุวรรณthanaporn.chay@ku.th<p>งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดปริมาณการเบิกเวชภัณฑ์ที่หมาะสมตามงบประมาณประจำปีสำหรับการจัดการคลังเวชภัณฑ์ กรณีศึกษา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้วยสเปรดชีท โดยการประยุกต์ใช้การพยากรณ์ 2 วิธี คือ วิธีการปรับเรียบเอ็กโปเนนเชียลครั้งเดียว และวิธีแยกส่วนประกอบ เพื่อกำหนดเป็นตัวแบบพยากรณ์สำหรับการคาดการณ์ความต้องการเวชภัณฑ์ยาที่เหมาะสม จากข้อมูลอนุกรมเวลาที่เก็บรายเดือนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ถึงเดือน มิถุนายน 2565 จากนั้น กำหนดปริมาณการเบิกเวชภัณฑ์ยาแต่ละรายการด้วยแนวคิดระบบสั่งซื้อแบบรอบเวลาการสั่งคงที่ ผลลัพธ์ที่ได้ คือ แนวคิดที่นำเสนอสามารถลดระดับคงคลังเวชภัณฑ์ลงได้ร้อยละ 24.69 เมื่อเทียบกับระดับคงคลังที่แท้จริง ซึ่งสามารถลดจำนวนเวชภัณฑ์ยาที่มีระดับคงคลังมากเกินความต้องการลงได้ร้อยละ 31.58 และสามารถเพิ่มจำนวนเวชภัณฑ์ยาที่มีระดับคงคลังเพียงพอต่อความต้องการร้อยละ 76.47 ทั้งนี้ หากพิจารณาถึงมูลค่าคงคลังรวม แนวคิดที่นำเสนอสามรถลดมูลค่าคงคลังรวมเมื่อเปรียบเทียบกับคงคลังรวมที่แท้จริงลดลง 399,980.76 บาท หรือลดลงร้อยละ 50.49 นอกจากนี้ แนวคิดที่นำเสนอยังถูกพัฒนาให้เป็นกรอบแนวคิดเพื่อช่วยตัดสินใจด้วยด้วยสเปรดชีตเพื่อความเป็นมิตรกับผู้ใช้ในทางปฏิบัติอีกด้วย</p>2023-06-30T00:00:00+07:00Copyright (c) 2023 วารสารวิจัย มทร. กรุงเทพ