ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความคงทนในการเรียนรู้และเจตคติทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องไฟฟ้าโดยใช้รูปแบบการสอน BSCS 5Eร่วมกับยุทธศาสตร์การสอนสแคฟโฟลดิง

Abstract

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยไม่เข้าขั้นทดลอง (Pre-Experimental Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการสอนโดยใช้รูปแบบการสอน BSCS 5Eร่วมกับยุทธศาสตร์การสอนสแคฟโฟลดิง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่องไฟฟ้า ในด้านต่อไปนี้ 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เทียบกับเกณฑ์เป้าหมายของโรงเรียนที่กำหนด คือ ร้อยละ 70 ของคะแนนเต็ม และจำนวนนักเรียนผ่านเกณฑ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนทั้งหมด 2) ความคงทนในการเรียนรู้ 3) เปรียบเทียบ เจตคติทางวิทยาศาสตร์ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนสีออศิลปศาสตร์ จำนวน1 ห้องเรียน จำนวน 30 คน ที่ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1)แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 11 แผน 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ3)แบบวัดเจตคติทางวิทยาศาสตร์จำนวน30 ข้อ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าทีสำหรับกลุ่มที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน ผลการศึกษาพบว่า 1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 70 ขึ้นไป จำนวน 17 คน คิดเป็นร้อยละ 56.66 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามหากนำจำนวนนักเรียนที่ขาดเรียนเป็นประจำออกไป 8 คน จะพบว่ามีนักเรียนร้อยละ 77.27 (จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 22 คน) ได้คะแนนผลสัมฤทธิ์ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด 2) นักเรียนมีความคงทนใน การเรียนรู้ 3) นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเจตคติทางวิทยาศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05