การปรับปรุงระบบการจัดเก็บกรณีศึกษาระบบการจัดเก็บแม่แบบตัดผ้า

Main Article Content

พัฒนพงษ์ แสงหัตถวัฒนา

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาแนวทางการปรับปรุงระบบการจัดเก็บแม่แบบตัดผ้าที่ใช้ในกระบวนการผลิต โดยปัญหาที่พบภายในแผนกตัดผ้า คือ ชั้นวางที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อจำนวนแม่แบบที่ต้องจัดเก็บ และพนักงานไม่สามารถหยิบแม่แบบตัดผ้าออกจากชั้นวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสาเหตุหลักมาจากระบบการจัดเก็บไม่มีมาตรฐาน ส่งผลให้ไม่สามารถหาแม่แบบตัดผ้าได้เจอ ซึ่งในการวิจัยนี้ได้ประยุกต์ใช้วิธีการตัดสินใจตามกระบวนการลำดับชั้นเชิงวิเคราะห์ (Analytical Hierarchy Process : AHP) มาใช้ในการเปรียบเทียบแต่ละแนวทางการวางระบบการจัดเก็บแม่แบบตัดผ้า โดยมีเกณฑ์หลักในการตัดสินใจ คือ ระยะทาง เวลาในการค้นหาแม่แบบ ความยากง่ายในการนำไปใช้ ความสอดคล้องกับความต้องการขององค์กร และความยืดหยุ่น ผลจากการวิเคราะห์พบว่าการจัดตามประเภทของแม่แบบมีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและกระบวนการทำ งานมากกว่าระบบการจัดเก็บตามความถี่ในการใช้งาน นอกจาก นี้ยังได้มีการนำเอาระบบ Visual Control มาช่วยพัฒนากระบวนการจัดเก็บและการนำแม่แบบออกจากชั้นวางโดยใช้สีเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกประเภทของแม่แบบ รวมทั้งมีการนำรหัสที่ง่ายและสะดวกมาช่วยในการกำหนดแม่แบบแต่ละชิ้น ซึ่งประสิทธิภาพหลังการปรับปรุงพบว่าพนักงานใช้เวลาในการหยิบแม่แบบลดลงจากเดิม 91.2 วินาที เป็น 16.7 วินาที และชั้นวางที่มีอยู่สามารถรองรับการจัดเก็บแม่แบบได้ทั้งหมดโดยเพิ่มขึ้นจากเดิม 235 ชุด เป็น 563 ชุด

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

อนุวัฒน์ ทรัพย์พืชผล และ ไพบูลย์ กิจวรวุฒิ, การจัดการคลังสินค้าระดับโลกกรุงเทพมหานคร: บจก.พิมพ์ดี, 2549

Weber, C.A., Current, J.R. A multiple objective approach to vendor selection. European Journal of Operation Research, Vol.68, pp 173-184, 1993.

Vergara, F.E., Khouja, M., Michalewicz, Z. “An evolutionary algorithm for optimizing material flow in supply chains”, Computers & Industrial Engineering, Vol.43, pp 407-421, 2002.

T.L. Saaty, How to make a decision: the analytical hirearchy process, European Journal of Operational Research 48 (1) (1990) 9-26.

A.A. Auilar-Lasserre et al., An AHP-based decision-making tool for the solution of multiproduct batch plant design problem under imprecise demand, Computer & Operations Research 36 (2009) 711-736.