การออกแบบและพัฒนาระบบจัดการทรัพยากรห้องสมุดบนเครื่องช่วยงานส่วนบุคคลแบบดิจิทัลและเทคโนโลยี RFID
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
- เทคโนโลยี RFID ถูกนามาประยุกต์ใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน รวมถึงการนามาประยุกต์ใช้ในห้องสมุด แม้ว่าหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะนาเทคโนโลยี RFID มาให้บริการยืมหรือคืนและป้องกันการสูญหายของทรัพยากรสารสนเทศ แต่การสารวจทรัพยากรสารสนเทศบนชั้นวางยังคงให้บรรณารักษ์เป็นผู้ดาเนินการเอง โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี RFID จากปัญหาดังกล่าวทาให้ภาพรวมในการดาเนินงานขาดประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากรสารสนเทศและยังส่งผลให้ขาดความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้พิจารณาถึงปัญหาดังกล่าว จึงพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนอุปกรณ์ช่วยงานอิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลเคลื่อนที่แบบไร้สายด้วยเทคโนโลยี RFID ทางานตั้งแต่ Windows Mobile 2003 ขึ้นไป ซึ่งพัฒนาจากโปรแกรมMicrosoft Visual 2005 ด้วยภาษา C++ และ Microsoft Windows Mobile Software Development Kit 5.0 อุปกรณ์ที่ใช้พัฒนาโปรแกรมทางานที่ความถี่ 13.56 MHz และสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สายส่วนบุคคลบลูทูธ โปรแกรมแบ่งออกเป็น 4 ส่วนตามฟังก์ชันการใช้งานคือ ฟังก์ชันการตรวจนับทรัพยากรสารสนเทศบนชั้นวาง ฟังก์ชันการค้นหาทรัพยากรสารสนเทศบนชั้นวาง ฟังก์ชันแสดงความถูกต้องของการจัดเรียงทรัพยากรสารสนเทศบนชั้นวางและฟังก์ชันสาหรับกาหนดค่าเริ่มต้นการใช้งานระบบ จากการทดสอบโปรแกรมและการประเมินผลด้านฟังก์ชันการทางาน ความน่าเชื่อถือ และความยากง่ายของการใช้โปรแกรมโดยบรรณารักษ์ของหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ผลจากการประเมินพบว่าบรรณารักษ์มีความพึงพอใจกับโปรแกรมเนื่องจากการใช้งานที่ง่าย รวดเร็วและตอบสนองต่อความต้องการ สามารถลดเวลาการทางานได้ถึง 94% และลดค่าแรงได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับวิธีการดาเนินงานในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามระบบสามารถปรับปรุงได้ในส่วนของส่วนติดต่อกับผู้ใช้ หรือเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อโดยตรงกับฐานข้อมูลห้องสมุด เพื่อให้ข้อมูลที่เหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น ตาแหน่งที่ถูกต้องของหนังสือที่อยู่ผิดตาแหน่ง ในฟังก์ชันการจัดเรียงทรัพยากรฯ
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
I/we certify that I/we have participated sufficiently in the intellectual content, conception and design of this work or the analysis and interpretation of the data (when applicable), as well as the writing of the manuscript, to take public responsibility for it and have agreed to have my/our name listed as a contributor. I/we believe the manuscript represents valid work. Neither this manuscript nor one with substantially similar content under my/our authorship has been published or is being considered for publication elsewhere, except as described in the covering letter. I/we certify that all the data collected during the study is presented in this manuscript and no data from the study has been or will be published separately. I/we attest that, if requested by the editors, I/we will provide the data/information or will cooperate fully in obtaining and providing the data/information on which the manuscript is based, for examination by the editors or their assignees. Financial interests, direct or indirect, that exist or may be perceived to exist for individual contributors in connection with the content of this paper have been disclosed in the cover letter. Sources of outside support of the project are named in the cover letter.
I/We hereby transfer(s), assign(s), or otherwise convey(s) all copyright ownership, including any and all rights incidental thereto, exclusively to the Journal, in the event that such work is published by the Journal. The Journal shall own the work, including 1) copyright; 2) the right to grant permission to republish the article in whole or in part, with or without fee; 3) the right to produce preprints or reprints and translate into languages other than English for sale or free distribution; and 4) the right to republish the work in a collection of articles in any other mechanical or electronic format.
We give the rights to the corresponding author to make necessary changes as per the request of the journal, do the rest of the correspondence on our behalf and he/she will act as the guarantor for the manuscript on our behalf.
All persons who have made substantial contributions to the work reported in the manuscript, but who are not contributors, are named in the Acknowledgment and have given me/us their written permission to be named. If I/we do not include an Acknowledgment that means I/we have not received substantial contributions from non-contributors and no contributor has been omitted.
เอกสารอ้างอิง
2. วัชรากร หนูทอง, อนุกูล น้อยไม้ และปรินันท์ วรรณสว่าง, RFID เทคโนโลยีสารพัดประโยชน์, Cover Story. สาร NECTEC. กันยายน – ตุลาคม 2547
3. ผกาทิพย์ ชูชาติ, การใช้เทคโนโลยี RFID TAG กับการให้บริการยืม – คืนหนังสือด้วยตนเอง (self-check - out) กรณีสานักหอสมด มหาวิทยาลัยทักษิณ. วารสารห้องสมุด สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยทักษิณ, สิงหาคม, 2550
4. ขวัญชนก วิริยกุลโอภาศ, RFID (Radio Frequency Identification). รายงานการศึกษาเทคโนโลยีสาหรับบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์, ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549
5. ชาญณรงค์ เผือกพูลผล, สถิติ. สานักหอสมุด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน, ธันวาคม, 2551, แหล่งที่มา http://www.lib.ku.ac.th, 20 กรกฏาคม 2553
6. Radio-frequency identification, แหล่งที่มา http://en.wiki pedia.org/wiki/Radio-frequency_identification, 30 พฤษภาคม 2555]
7. ISO/IEC 15693, http://en.wikipedia.org/wiki/ISO/ IEC_15693
8. ปิยะ โควินท์ทวีวัฒน์, ระบบบ่งชี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ. ศูนย์เทคโนโลยีอิเลิกทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ: ประเทศไทย, แหล่งที่มา: http://home.npru.ac.th, 1 ตุลาคม 2553]
9. “What are RFID Tags?”, http://www.rfidtags.com/
10. “RFID Reader”, http://www.technovelgy.com/ct/Tech nology- Article.asp?ArtNum=54
11. วิชญ์ศุทธ์ เมาระพงษ์, Radio Frequency Identification: RFID. วารสาร TPA News, สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น), เมษายน 2553.
12. มนต์ชัย โศภิษฐกมล, RFID เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก, Top Universities: Thailand’s Only Complete University Guide, เมษายน 2555.
