การศึกษาพฤติกรรมการติดตามข่าวจากสำนักข่าวบนเฟซบุ๊ก กับความชอบพรรคการเมือง

Main Article Content

ณัฐพงษ์ คงเอี่ยม
เชฏฐเนติ ศรีสอ้าน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาพฤติกรรมการรับสื่อจากสำนักข่าวบนเฟสบุ๊ก เพื่อสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการประชาสัมพันธ์ของสำนักข่าวได้ 2) ศึกษาว่าการติดตามข่าวจากสำนักข่าวบนเพจเฟสบุ๊ก กับความชอบพรรคการเมือง มีความสัมพันธ์กันหรือไม่ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนทั่วไปผู้ใช้เฟสบุ๊ก อายุตั้งแต่ 18 ขึ้นไป จำนวน 400 คน โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย และส่วนบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 26-43 ปี มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี มีอาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ระหว่าง 15,001 - 30,000 บาท มีสถานะโสด โดยมีสมาชิกในครอบครัว 3 – 4 คน เมื่อทดสอบความสัมพันธ์ โดยใช้ สถิติไคสแควร์ พบว่า ช่วงเวลาการติดตามข่าวสาร กับ วุฒิการศึกษา และ ช่วงเวลาการติดตามข่าวสาร กับ อาชีพหลัก มีความสัมพันธ์แบบมีนัยสำคัญทางสถิติ ด้าน สมมติฐาน ความสัมพันธ์ระหว่างสำนักข่าวบนเฟสบุ๊ก กับความชอบพรรคการเมือง ก็พบว่า มีความสัมพันธ์แบบมีนัยสำคัญทางสถิติ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
[1]
คงเอี่ยม ณ. และ ศรีสอ้าน เ., “การศึกษาพฤติกรรมการติดตามข่าวจากสำนักข่าวบนเฟซบุ๊ก กับความชอบพรรคการเมือง”, JIST, ปี 13, ฉบับที่ 2, น. 79–88, ธ.ค. 2023.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย Social and Business Aspects of Convergence IT

เอกสารอ้างอิง

ณัฐพล ม่วงทำ. (2564). สรุป 52 Insight สำคัญจาก Thailand Digital Stat 2022 ของ We Are Social. สืบค้นเมื่อ 17 มกราคม 2566, https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/insight-thailand-digital-stat-2022-we-are-social/

อรรถพล ทองวิทยาพรม, จำนง วงษ์ชาชม และ สุทิศา ซองเหล็กนอก, “การใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมศรีสงคราม มหาวิทยาลัยนครพนม”. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม, 8(3), 81-89, 2561

วัชรพงษ์ จิตรงามปลั่ง, และพันเอก บุญเอื้อ บุญฤทธิ์,

“ประสิทธิผลของการจัดการสื่อหนังสือพิมพ์ในยุคการแข่งขันกับสื่ออินเทอร์เน็ตในประเทศไทย”, วารสารเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, 20(10), 26-42, 2562.

วีระศักดิ์ จินารัตน์, “การใช้เฟสบุ๊กเพื่อการรับข่าวสารที่มีอิทธิพลต่อความสนใจทางการเมืองและการเข้าร่วมทางการเมือง”, วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอิสเทิร์น, 6(12), 412-423, 2564

สุชาดา บวรกิติวงศ์ และสิวะโชติ ศรีสุทธิยากร, “ความแกร่งของสถิติทดสอบไคสแควร์”, วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 44(3), 212-220,2559

ทรงฤทธิ์ ทองมีขวัญ, สกุลตลา แซ่เตียว, วรินทร์ลดา จันทวีเมือง, ทิพย์สุคนธ์ กิจรุ่งโรจน์ และจินตวีร์พร แป้นแก้ว, “พฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของนักศึกษาพยาบาลวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สงขลา”, วารสารพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, 2141, 67-77, 2563

Perez-Vicente S, Exposito Ruitz M., “Descriptive Statistics”, Allergol Immunopathol (Madr), 37(6): 314-320, 2009

Verma, J. P., “Chi-square test and its application”, In J. P. Verma (Eds.), Data Analysis in Management with SPSS Software, pp. 69-101, Delhi, New Delhi: Springer, 2009