การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะจากเบียร์เชอร์รี่

ผู้แต่ง

  • มงคล เพ็ญสายใจ

คำสำคัญ:

เบียร์เชอร์รี่, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผม, สารต้านอนุมูลอิสระ, สารประกอบฟีนอลิก

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการทำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผมจากเบียร์เชอร์รี่ และผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผมโดยใช้เบียร์เชอร์รี่เป็นส่วนประกอบหลัก และวิเคราะห์คุณสมบัติทางเคมี ทางกายภาพ และทางจุลชีววิทยา โดยการศึกษาเบียร์เชอร์รี่กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผมจากเบียร์เชอร์รี่ทั้ง 2 สูตร พบว่าในการทดสอบวัดค่ากิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี FRAP ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผมจากเบียร์เชอร์รี่สูตรที่ 1 มีค่ามากที่สุด คือ 4,225.41 ไมโครกรัมของ FeSO4 ต่อมิลลิลิตร รองลงมาคือผลิตภัณฑ์สูตรที่ 2 มีค่า 3,545.08 ไมโครกรัมของ FeSO4 ต่อมิลลิลิตร และน้อยที่สุดคือเบียร์เชอร์รี่ มีค่า 1,397.54 ไมโครกรัมของ FeSO4 ต่อมิลลิลิตร และปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมดที่วัดด้วยวิธี Folin-Ciocalteu ผลิตภัณฑ์สูตรที่ 1 มีค่ามากที่สุด คือ 2,550.49 ไมโครกรัมของกรดแกลลิกต่อมิลลิลิตร รองลงมาคือผลิตภัณฑ์สูตรที่ 2 มีค่า 1,736.76 ไมโครกรัมของกรดแกลลิกต่อมิลลิลิตร และน้อยที่สุดคือเบียร์เชอร์รี่ มีค่า 1,192.65 ไมโครกรัมของกรดแกลลิกต่อมิลลิลิตร และจากการทดลองนำผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผมจากเบียร์เชอร์รี่ทั้ง 2 สูตร มาตรวจนับจำนวนจุลินทรีย์ทั้งหมดและจุลินทรีย์ก่อโรค 3 ชนิด ได้แก่ Staphylococcus aureus  Pseudomonas aeruginosa และ Candida albicans พบว่าตัวอย่างทั้งหมดที่นำมาทดสอบไม่พบการเจริญของจุลินทรีย์ที่ก่อโรค

เอกสารอ้างอิง

กาญจนา นาคประสม, จตุรภัทร วาฤทธิ์, อุมาพร อุประ, หยาดฝน ทนงการกิจ และนักรบ นาคประสม. (2560). “สภาวะที่เหมาะสมในการสกัดสารประกอบฟีนอลิกรวมจากดอกบัวหลวงโดยใช้เทคนิคสกัดด้วยไมโครเวฟ.” วารสารวิทยาศาสตร์ มข. 45(2), 328-342.

นงลักษณ์ สุวรรณพินิจ และปรีชา สุวรรณพินิจ. (2541). อาหารเลี้ยงเชื้อและการเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์. พิมพ์ครั้งที่ 2. ปทุมธานี: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วิเชียร วรพุทธพร และสุกัลยา ทาโบราณ. (2543). คู่มือปฏิบัติการจุลชีววิทยาของอาหาร. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์กระทรวงอุตสาหกรรม. (2562). มาตรฐานอุตสาหกรรมเอส มอก. เอส 12-2562 แชมพูผสมสมุนไพร. ฉบับที่ 2.

สุชาดา มานอก และปวีณา ลิ้มเจริญ. (2558). “การวิเคราะห์ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยวิธี DPPH, ABTS และ FRAP และปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมดของสารสกัดสมุนไพรในตำรับยาหอมเทพจิตร.” ก้าวทันโลกวิทยาศาสตร์. 15(1), 106-117.

สุดใจ ปาวิชัย. (2540). การเปรียบเทียบวิธีการเก็บรักษาเชื้อจุลินทรีย์เพื่อใช้ในห้องปฏิบัติการ. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

สุภาพร รัตนพลที และอนุชสรา คำตัน. (2554). การตรวจสอบคุณภาพอาหาร เครื่องสำอาง และการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.

Aquilani, B. Laureti, T. Poponi, S. and Secondi, L. (2015). “Beer choice and consumption determinants when craft beers are tasted: An exploratory study of consumer preferences.” Food Quality and Preference. 41(1), 214–224.

Basso, R.F. Alcarde, A.R. and Portugal, C.B. (2016). “Could non-Saccharomyces yeasts con-tribute on innovative brewing fermentations.” Food Research International. 6, 112– 120.

Beattie, J. Crozier, A. and Duthie, G.G. (2005). “Potential health benefits of berries.” Current Nutrition & Food Science. 1(1), 71-86.

Benzie, I.F.F. and Strain, J.J. (1996). “The ferric reducing ability of plasma (FRAP) as a measure of “Antioxidant power”: The FRAP assay.” Analytical Biochemistry. 239, 70–76.

Canonico, L. Comitini, F. and Ciani, M. (2014). “Dominance and influence of selected Saccharomyces cerevisiae strains on the analytical profile of craft beer refermentation.” The Institute of Brewing. 120(3), 262-267.

Ghiselli, A. Natella, F. Guidi, A. Montanari, L. Fantozzi, P. and Scaccini, C. (2000). “Beer increases plasma antioxidant capacity in humans.” The Journal of Nutritional Biochemistry. 11(2), 76-80.

Gomez, A.M. Caballero, I. and Blanco, C.A. (2020). “Phenols and melanoidins as natural antioxidants in beer : structure, reactivity and antioxidant activity.” Biomolecules. 10(400), 1-19.

Huang, J. Hitchins, A.D. Tran, T.T. and McCarron, J.E. (2001). BAM: Microbiological Methods for Cosmetics. (online). http:// www.fda.gov.com, 17 พฤศจิกายน 2563.

Matson, T. and Dorr, L.A. (2011). Mountain Brew: A High-Spirited Guide to Country-Style Beer Making. 1st ed. Taftsville. Vermont: Countryman Press.

Nardini, M. and Garaguso, I. (2020). “Characterization of bioactive compounds and antioxidant activity of fruit beers.” Food Chemistry. 305.

Nardini, M. Natella, F. Scaccini, C. and Ghiselli, A. (2006). “Phenolic acids from beer are absorbed and extensively metabolized in humans.” The Journal of Nutritional Biochemistry. 17(1), 14–22.

Omtoria. (2016). Organic Beer Shampoo. (Online). http://www.instructables.com/id/Organic-Beer-Shampoo/, 15 มิถุนายน 2563.

Shea, E. and Valand, S. (2011). Make Some Beer: Small-Batch Recipes from Brooklyn to Bamberg. New York: Clarkson Potter.

Shea, E. Valand, S. and Fiedler, J. (2014). Brooklyn Brew Shop's Beer Making Book: 52 Seasonal Recipes for Small Batches. New York: Clarkson Potter.

Taghvaei, M. and Jafari, S.M. (2013). “Application and stability of natural antioxidants in edible oils in order to substitute synthetic additives.” J Food Sci Technol. 52(3), 1272-1282.

Tomasina, F. Carabio, C. Celano, L. and Thomson, L. (2012). “Analysis of two methods to evaluate antioxidants.” Biochemistry and Molecular Biology Education. 40(4), 266–270.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-07-13

รูปแบบการอ้างอิง

เพ็ญสายใจ ม. . (2021). การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะจากเบียร์เชอร์รี่. วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา, 2(1), 23–32. สืบค้น จาก https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/SciAndTechSkru/article/view/244642

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย