การศึกษา ประสิทธิผลของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง เพื่อลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง

ผู้แต่ง

  • yaowalak teanuan -

คำสำคัญ:

การแช่เท้า, รางจืด, ย่านาง, สารเคมีกำจัดศัตรูพืช, เกษตรกรกลุ่มเสี่ยง

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง เพื่อศึกษาประสิทธิผลของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านางต่อการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง และเปรียบเทียบประสิทธิผลระหว่างการแช่เท้าด้วยรางจืดกับการแช่เท้าด้วยย่านางต่อระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส ในเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงที่มีระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสอยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย จำนวน 22 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงแล้วทำการสุ่มอย่างง่าย แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่ม 1 แช่เท้าด้วยสมุนไพรใบรางจืด กลุ่ม 2 แช่เท้าด้วยสมุนไพรย่านาง ที่อุณหภูมิ 40-42°C เป็นเวลา 15 นาที ติดต่อกัน 7 วัน ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของกลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มหลังการทดลองลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01) เมื่อเทียบกับก่อนการทดลอง และ 2) เมื่อเปรียบเทียบระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสหลังการทดลองระหว่างกลุ่ม พบว่าทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างกัน (Z = -1.32, p = 0.187)  ทั้งนี้ระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสที่เปลี่ยนแปลงไปอาจขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ทดลองรวมถึงปัจจัยอื่นร่ามด้วย จึงควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อผลเชิงประจักษ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรและผู้สัมผัสต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม. (2559). ผลกระทบต่อสุขภาพจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช. สืบค้น 15 กันยายน 2565, จาก http://envocc.ddc.moph.go.th/contents/view/106

จันทพร มณีเสน. (2563). การศึกษาผลของการใช้รางจืดเป็นยาต้านพิษ. วารสารสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 3(1), 28-40

นิรมล ธรรมวิริยสติ, วิจิตตรา มาลัยเขต, กลย์รวี กนกเลิศวงศ์, รินรดา วิสุทธิ และสานิตา สิงห์สนั่น. (2562). ระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในซีรัมต่อผลกระทบสุขภาพของผู้บริโภคผักผลไม้สด. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 13(2), 52-62.

พร้อมจิต ศรลัมพ์. (2565). รางจืด สมุนไพรแก้พิษและล้างพิษ. สืบค้น 10 กันยายน 2565, จาก http://medplant.mahidol.ac.th

พิมพ์วิภา แพรกหา (2557). แช่เท้าเพื่อสุขภาพ. สืบค้น 10 กันยายน 2565, จาก https://www.ttmed.psu.ac.th/th/blog/153

รัชฎาภรณ์ จันทสุวรรณ์ และอุไร จเรประพาฬ. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ พฤติกรรมการปฏิบัติตนในการป้องกันสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย และระดับโคลีนเอสเตอเรสในซีรั่มของเกษตรกร ตำบลเขาพระบาท จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 27(1), 68-77.

วัลลภา ลีลานันทกุล, ธนวดี ปกาโส, พัชรมัย ไกรเสน, นายิกา อินทะนาม และวัชราภรณ์ พัทคัน. (2562).

ผลของการแช่เท้าด้วยน้ำรางจืดต่อระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสของเกษตรกรที่สัมผัสสารกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตและกลุ่มคาร์บาเมตในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัย. ธรรมศาสตร์เวชสาร, 19(พิเศษ), 94-105.

วิโรจน์ เลิศพงศ์พิพัฒน์, ดาริกา ไชยคุณ และโรงพยาบาลซำสูง. (2554). การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลในการเพิ่มระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในกระแสเลือด ระหว่างสมุนไพรรางจืดและย่านางแดงในกลุ่มเกษตรกร. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ขอนแก่น, 18(3), 49-58.

เวทย์ วรวิทย์. (2551). ตำรายาและว่านมงคล ตำรับสำนักเขาอ้อ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ ไทยควอลิตี้บุ๊คส์

ศุจิมน มังคลรังสี, สุวพิชญ์ เตชะสาน, วีรยา สินธุกานนท์ และคณะ. (2565). ความชุกของสารเคมีกําจัดศัตรูพืชกลุ่มออการ์โนฟอสเฟตและคาร์บาเมต ตกค้างในผักที่จําหน่ายในตลาดสด และในห้างสรรพสินค้า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการสาธารณสุขชุมชน, 8(4), 129-140

ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมวิชาการเกษตร. (2565). ข้อมูลปริมาณและมูลค่า การนำเข้าวัตถุอันตรายทางการเกษตร(รายประเภทการใช้). สืบค้น 1 กันยายน 2565, จาก https://data.go.th/dataset/importchemvol

สำนักการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก. (2553). ตำราวิชาการ การใช้น้ำเพื่อสุขภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2560). องค์ความรู้เกี่ยวกับการตรวจคัดกรองความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชโดยกระดาษทดสอบโคลีนเอสเตอเรส (Cholinesterase reactive paper) สำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์สื่อและสิ่งพิมพ์แก้วเจ้าจอม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.

สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดลอม. (2561). รายงานสถานการณโรคและภัยสุขภาพจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดลอม ป2560. สืบค้น 1 กันยายน 2565, จาก https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2//files/01_envocc_situation_60.pdf

องค์การบริหารส่วนตำบลชะมวง. (2565). สภาพและข้อมูลพื้นฐานในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบองค์การบริหารส่วนตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง. สืบค้น 20 ตุลาคม 2565, จาก https://www.chamung.go.th/index.php

อรุณรัตน ปญจะ กลิ่นเกสร และ ธวัชชัย ดาเชิงเขา. (2563). การเปรียบเทียบประสิทธิผลระหว่างการรับประทานวุ้นรางจืดร่วมกับการอบสมุนไพรกับการรับประทานวุ้นรางจืดในการลดระดับเอนไซมโคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกรกลุมเสี่ยง. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏรอยเอ็ด: วิทยาศาสตรและเทคโนโลยี, 1(1), 52-60.

อัญชลี จูฑะพุทธิ. (2553). รางจืด: สมุนไพรล้างพิษ. วารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, 8(2-3), 211-217

Huei-Lin Yang, Xue-Ping Chen, Kwo-Chen Lee, Fuei-Fen Fang and Yann-Fen Chao. (2010). The effects of warm water footbath on relieving fatigue and insomnia of the gynecologic cancer patients on chemotherapy. Cancer Nurs, 33(6):454-60.

Thays Millena Alves Pedroso, Marcelino Benvindo-Souza, Felipe de Araújo Nascimento and et al. (2022). Cancer and occupational exposure to pesticides: a bibliometric study of the past 10 years. Environmental Science and Pollution Research, 29: 17464–17475

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-03-19

รูปแบบการอ้างอิง

teanuan, yaowalak. (2024). การศึกษา ประสิทธิผลของการแช่เท้าด้วยสมุนไพรรางจืดและย่านาง เพื่อลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยง . วารสารวิชาการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา, 3(1), 26–38. สืบค้น จาก https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/SciAndTechSkru/article/view/250777

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย