พัฒนาชุดทดลองการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์อย่างง่ายจากท่ออลูมิเนียม
คำสำคัญ:
การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์, ชุดทดลองการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์, ท่ออลูมิเนียมบทคัดย่อ
การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์เป็นเนื้อหาที่สำคัญทางฟิสิกส์ซึ่งเครื่องมือทดลองมีราคาค่อนข้างสูง การพัฒนาชุดทดลองการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์อย่างง่ายจึงมีความสำคัญอย่างมาก การวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดทดลองการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์อย่างง่ายจากท่ออลูมิเนียมและทดสอบสรรถนะของชุดทดลองการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์ที่ผลิตขึ้น การวิจัยครั้งนี้ใช้ท่ออลูมิเนียมในการผลิตโดยพัฒนาให้มีคุณสมบัติการปรับตำแหน่งการยิงได้หลายระดับ และสามารถปรับระดับความสูงได้สำหรับการศึกษาการเคลื่อนที่แบบวิถีโค้ง การทดสอบสรรถนะของชุดทดลองการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์ทำการทดสอบโดยการหาค่าคงที่ของสปริงที่ใช้ในการยิงและหาความเร็วต้นของวัตถุที่เคลื่อนที่ออกจากปลายท่อ ผลการทดสอบพบว่าค่าคงที่ของสปริงเฉลี่ยเท่ากับ 128.28 + 0.006 N/m และผลการทดสอบความเร็วต้นของวัตถุที่เคลื่อนที่ออกจากปลายท่อมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.32+ 0.01 m/s และ 3.83 + 0.02 m/s ตามลำดับ เมื่อทำการแปรค่าความแรงในการยิงที่ระดับความสูงเดียวกันระยะทางที่วัตถุตกในแนวระดับมีค่าเพิ่มขึ้น ชุดทดลองนี้สามารถปรับตำแหน่งการยิงได้อย่างแม่นยำและยังมีราคาต้นทุนที่ต่ำกว่าชุดทดลองมาตรฐานในท้องตลาด ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นถึงการพัฒนาเครื่องมือการทดลองการเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์ที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่าในด้านต้นทุนและสามารถส่งเสริมการพัฒนาในสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนทางฟิสิกส์ได้
References
Serway, R. A., & Jewett, J. W. (2008). Physics for scientists and engineers with modern physics (9th ed.). Brooks/Cole. https://salmanisaleh.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/02/physics-for-scientists-7th-ed.pdf
Khambun, A. (2018). The development projectile experimental set by automatic angle. Advanced Science, 18(1), 81-96. https://sci.bsru.ac.th/sciweb/e-magazine/18-1/chapter-6.pdf
Poonyawatpornkul, J., & Luksameevanish, V. (2019). Development of scientific understanding using high-speed video analysis technique: Case study on projectile motion. Journal of Education, Prince of Songkla University, Pattani Campus, 30(1), 71–84. https://so02.tci-thaijo.org/index.php/edupsu/article/view/186818/131491
Kovacevic, M. S., Kuzmanovic, L., Kovacevic, S., & Milosevic, M. M. (2024). An experiment for the study of projectile motion. Revista Mexicana de F´ısica E, 21, 1-5. https://rmf.smf.mx/ojs/index.php/rmf-e/article/view/7277/6938
Parker, G. W. (1977). Projectile motion with air resistance quadratic in the speed. Am. J. Phys, 45(7), 606. DOI: 10.1119/1.10812
Sittichai, R., & Rattanapong, K. (2020). Designing and Developing Electromagnetic Induction Projectile Launcher. Journal of Science and Technology Education, 8(2), 55-67. https://ejournals.swu.ac.th/index.php/JSTEL/article/view/7661/6980
Office of Academic Standards and Educational Quality, Office of the Basic Education Commission, Ministry of Education. (2008). Indicators and core learning contents of the science learning area according to the Basic Education Core Curriculum B.E. 2551 (2008). The Agricultural Cooperative Federation of Thailand.
Kongraksaa, N. (2014). Cloud computing and education management in the 21st century. Journal of Vocational and Technical Education, 4(7), 52-59. https://ojs.kmutnb.ac.th/index.php/JVTE/article/view/1726/1241
Ruangbun, T., & Wuttiprom, S. (2016). Designing and developing electromagnetic induction projectile launcher. Journal of Research Unit Science, Technology and Environmental Learning, 7(1), 191-203. https://ejournals.swu.ac.th/index.php/JSTEL/article/view/7661/6980
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว