Publication Ethics

จริยธรรมของสำนักพิมพ์

วารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นวารสารทางวิชาการที่ตระหนักถึงความสำคัญของจริยธรรมในการตีพิมพ์

ดังนั้น ทุกๆภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในกระบวนการตีพิมพ์ของวารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ จะต้องปฏิบัติตามคู่มือ “The Committee on Publication Ethics (COPE)” (https://publicationethics.org/)

ทางวารสารจะใช้เครื่องมือตรวจสอบการคัดลอกงานวิจัย “copycatch” ในการตรวจสอบบทความวิจัยทั้งหมดที่ส่งมา โดยหากตรวจสอบแล้วพบแล้วมีความเหมือนของเนื้อหามากกว่าร้อยละ 30 จะส่งบทความคืนให้กับผู้แต่งเพื่อแก้ไข และหากผู้แต่งไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ บทความวิจัยดังกล่าวจะไม่ได้รับการตีพิมพ์ทันทีโดยไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบ อีกทั้ง เพื่อไม่ให้เกิดอคติและความขัดแย้งทางผลประโยชน์ วารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ จะใช้นโยบาย double-blind peer review คือ ผู้พิจารณาไม่ทราบชื่อผู้แต่ง และผู้แต่งไม่ทราบชื่อผู้พิจารณา เพื่อกลั่นกรองบทความวิจัยทั้งหมด

จริยธรรมของบรรณาธิการ

บรรณาธิการจะเป็นผู้ตัดสินว่าบทความใดที่ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์ หรือไม่ได้รับการตอบรับให้ตีพิมพ์โดยขึ้นกับคำแนะนำจากคณะผู้ประเมินบทความ

ทีมบรรณาธิการวารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย คณะบรรณาธิการ บรรณาธิการใหญ่ และ กองบรรณาธิการ

คณะบรรณาธิการจะเป็นผู้ให้คำแนะนำโดยทั่วไปในแง่มุมทางวิชาการ สมาชิกบรรณาธิการอาจทำหน้าผู้ประเมินด้วยเช่นกัน

ทีมบรรณาธิการซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในสาขางานวิจัยต่างๆที่มีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวข้องกับทางวารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ บรรณาธิการใหญ่จะมอบหมายบทความวิจัยที่มีเนื้อหาเหมาะสมกับสมาชิกบรรณาธิการให้เป็นผู้ทำหน้าที่กองบรรณาธิการเพื่อดูแลบทความนั้นๆ

กองบรรณาธิการมีหน้าที่มอบหมายบทความที่มีเนื้อหาเหมาะสมกับให้กับความเชี่ยวชาญของผู้ประเมินบทความ และมีอำนาจในการตัดสินในการอนุมัติให้ตีพิมพ์ เว้นแต่กรณีที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์หรือความแตกต่างทางความคิดเห็น บรรณาธิการใหญ่จะเป็นผู้ตัดสินแทน ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการการตีพิมพ์ของวารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรณาธิการทุกคนควรปฏิบัติตามคำแนะดังต่อไปนี้

1. บรรณาธิการทุกคนจะต้องยึดมั่นหลักจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับวารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
2. บรรณาธิการทุกคนจะต้องคัดเลือกผู้ประเมินบทความที่มีความเชี่ยวชาญและไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ใดๆกับผู้เขียนบทความ
3. บรรราธิการทุกคนจะต้องไม่เปิดเผยตัวตนของผู้ประเมินบทความให้กับผู้เขียนบทความ และในทำนองเดียวกันจะต้องไม่เปิดเผยตัวตนของผู้แต่งบทความให้กับผู้ประเมินบทความ
4. บรรณาธิการจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆจากบทความก่อนการตีพิมพ์
5. ข้อมูลหรือข้อคิดเห็นจากผู้ประเมินบทความจะต้องเป็นความลับและไม่ควรใช้เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล

จริยธรรมของผู้แต่ง

ความเป็นเจ้าของผลงานของบทความควรจำกัดสิทธิให้กับผู้ที่มีส่วนสนับสนุนที่สำคัญในบทความ รวมถึงความคิดและการเขียนบทความ อีกทั้ง ผู้แต่งจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

1. บทความที่เขียนจะต้องไม่เคยผ่านการตีพิมพ์ลงบนวารสารใดๆก่อนส่งให้กับทาง วารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ หากมีผลงานวิจัยบางส่วนในรับการตีพิมพ์ในรายงานการประชุมทางวิชาการ (proceedings) จะต้องระบุหรือแสดงไว้ในตัวบทความด้วย
2. ผู้แต่งสามารถส่งบทความให้กับวารสารอื่นๆได้ต่อเมื่อบทความของผู้แต่งไม่ได้รับการตอบรับการตีพิมพ์ลงบน วารสารไทยการวิจัยดำเนินงาน
3. ผู้แต่งมีหน้าที่ปฏิบัติตามข้อคิดเห็นและคำแนะนำของผู้ประเมิน หากผู้แต่งไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ผู้แต่งควรให้คำอธิบายแก่ผู้ประเมิน อย่างไรก็ตาม อำนาจการตัดสินใจอยู่ในดุลยพินิจของกองบรรณาธิการหรือบรรณาธิการใหญ่
4. วารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ปฏิบัติตามนโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของผลงานอย่างเคร่งครัด การเปลี่ยนแปลงความเป็นเจ้าของผลงาน เช่น การเพิ่ม / ลบ ชื่อผู้แต่ง หรือการเปลี่ยนลำดับชื่อผู้แต่ง ควรได้รับการอนุมัติจากผู้แต่งควรได้รับการอนุมัติจากผู้แต่งที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นๆทุกคน

จริยธรรมของผู้ประเมิน

ผู้ประเมินบทความมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างมากในการตีพิมพ์บทความ ความคิดเห็นและข้อแนะนำของผู้ประเมินช่วยให้ผู้แต่งพัฒนาคุณภาพของผลงานให้ดีขึ้นและเพื่อให้มั่นใจว่าผลงานของบทความนั้นมีคุณค่าในการตีพิมพ์และเป็นประโยชน์ต่อความรู้ทางวิชาการ ยิ่งไปกว่านั้น ความคิดเห็นและข้อแนะนำของผู้ประเมินสามารถมีอิทธิพลต่อบทความที่จะตีพิมพ์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในกระบวนการประเมินบทความ ผู้ประเมินบทความจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

1. ผู้ประเมินบทความควรปฏิเสธที่จะรับประเมินความงานวิจัยที่มีเนื้อหาไม่ตรงกับความเชี่ยวชาญของตน
2. ผู้ประเมินบทความควรให้คำแนะนำและข้อคิดเห็นโดยอิงความเชี่ยวชาญของตนเองโดยปราศจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์
3. ผู้ประเมินบทความ ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลหรือผลลัพธ์ใดๆ จากบทความก่อนกำหนดการตีพิมพ์
4. ผู้ประเมินบทความควรแจ้งบรรณาธิการหากสงสัยว่าเนื้อหาของบทความมีความซ้ำกับผลงานอื่นๆที่เคยได้รับการตีพิมพ์ไปแล้ว