การกำหนดสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับการจองห้องพักรายเดือนตามฤดูกาล: กรณีศึกษาโรงแรมแห่งหนึ่ง
คำสำคัญ:
การกำหนดสัดส่วนการจอง, จำนวนที่ยินยอมให้จองได้, ระดับการจองที่กันไว้, การกำหนดราคาขั้นต่ำการจองห้องพักบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นการวิเคราะห์การกำหนดสัดส่วนการจองห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อให้เกิดกำไรสูงสุดให้กับโรงแรม โดยแต่ละกลุ่มตัวแทนขายห้องพักยังไม่ได้มีการกำหนดสัดส่วนการจองห้องพัก ซึ่งลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการจองห้องพักและระดับราคาที่แตกต่างกัน หลังจากที่ได้ทำการกำหนดสัดส่วนการจองห้องพักของแต่ละเดือนและแต่ละฤดูกาล สำหรับแต่ละกลุ่มแล้วนั้น ได้มีการวิเคราะห์การกำหนดราคาขั้นต่ำของการจองห้องพักสำหรับกลุ่มตัวแทนขายทั่วไปด้วย จากการศึกษาตามนโยบายใหม่และการกำหนดราคาห้องพักขั้นต่ำสำหรับกลุ่มตัวแทนขายทั่วไป ได้มีการเปรียบเทียบในเดือนมกราคมถึงมีนาคม พ.ศ.2561 พบว่าโรงแรมแห่งนี้ได้รับรายได้เพิ่มขึ้น 1,248,198 บาทสำหรับสัดส่วนการจองห้องพักของแต่ละเดือน และสำหรับการจองห้องพักของแต่ละฤดูกาลจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 1,187,451 บาท และได้มีการกำหนดราคาห้องพักขั้นต่ำสำหรับกลุ่มตัวแทนขายทั่วไป วันจันทร์ถึงศุกร์ที่ 1,600 บาท และวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ที่ 1,650 บาท ของผลการดำเนินงานรวมในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม พ.ศ.2561
References
สำนักงานสถิติแห่งชาติ สาขาการท่องเที่ยวและกีฬา. (2559). การประกอบกิจการโรงแรมและเกสต์เฮาส์. สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
Amaruchkul. (2018). Revenue Optimization Models. CreateSpace Independent Publishing Platform. North Charleston, SC.
Chen, D. and Freimer. (2006). Understanding the bid price approach to revenue management: A case of the revenue inn. Revenue management and pricing. Singapore. Thomson Learning.
Liu, P.H. (2006). Hotel demand/cancellation analysis and estimation of unconstrained demand using statistical methods. Revenue management and pricing. Singapore. Thomson Learning.
Phillips, R. (2005). Pricing and Revenue Optimization. Stanford University Press, Stanford, CA.
Talluri, K. and van Ryzin, G. (2004). The Theory and Practice of Revenue Management. Kluwer Academic Publishers, Boston, MA.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
เนื้อหาและข้อมูลที่ปรากฏในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารสถิติประยุกต์และเทคโนโลยีสารสนเทศถือเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนแต่ละท่าน ความผิดพลาดของข้อความและผลที่อาจเกิดจากนำข้อความเหล่านั้นไปใช้ผู้เขียนบทความจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากวารสาร ก่อนเท่านั้น
