APPLICATION OF VALUE ENGINEERING FOR CAR ACCESSORIES PRODUCTS

Abstract

จากสถิติยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยปี พ.ศ. 2553 – พ.ศ. 2556 มีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ชุดแต่งรถยนต์เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ โดยผลิตภัณฑ์ชุดแต่งรถยนต์ที่ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้มีทั้งแบบผลิตภัณฑ์ชุดแต่งรถยนต์ลิขสิทธ์แท้และแบบผลิตภัณฑ์ชุดแต่งรถยนต์เทียบเท่า ทำให้ผู้ประกอบการของบริษัทผลิตภัณฑ์ชุดแต่งรถยนต์ลิขสิทธ์แท้ถูกแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด เนื่องจากผลิตภัณฑ์ชุดแต่งรถยนต์เทียบเท่ามีราคาที่ถูกกว่า งานวิจัยนี้จึงได้นำหลักวิศวกรรมคุณค่ามาประยุกต์ใช้ในการลดต้นทุนของผลิตภัณฑ์ชุดแต่งรถยนต์ ตามแผนงาน 7 ขั้นตอนหลัก คือ 1. ขั้นตอนทั่วๆ ไป 2. ขั้นตอนการรวบรวมข้อมูล 3. ขั้นตอนการวิเคราะห์หน้าที่ 4. ขั้นตอนการสร้างสรรความคิด 5. ขั้นตอนการประเมินผล 6. ขั้นตอนการทดสอบและพิสูจน์ และ 7. ขั้นตอนการเสนอแนะ จากผลการวิจัยพบว่า การประยุกต์ใช้หลักวิศวกรรมคุณค่าในผลิตภัณฑ์พื้นปูกระบะรถยนต์ ทำให้ต้นทุนของผลิตภัณฑ์ลดลง 24% และคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์หลังการปรับปรุงตรงตามความต้องการของลูกค้าตามผลที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลในขั้นตอนที่สองด้วย

The trend of car sales in Thailand in recent years has been increasing continuously resulting in high demand of car accessories. However, customers can choose to buy between genuine or non-genuine accessories, reducing the market share of genuine accessory business as the non-genuine is the better choice for customer because of the cheaper price. As the result, this research had applied the principle of value engineering for cost reduction in genuine accessory production process by the utilizing the 7 phases of value engineering (1. General Phase 2. Information Phase 3. Function Phase 4. Creation Phase 5. Evaluation Phase 6. Investigation Phase 7. Recommendation Phase). Refer to the result of this study, application of value engineering can decrease the product cost of Bed Liner by 24% as well as adjust the product's functional benefit to suit with customer's needs from the information result in 2nd phase of this project.