การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ส่งผลต่อการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหากูเกิ้ล
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ส่งผลต่อการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหากูเกิ้ล 2) เพื่อประเมินประสิทธิภาพเว็บไซต์การท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรม และ 3) เพื่อประเมินการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหากูเกิ้ล โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) เว็บไซต์รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 2) โปรแกรมติดตามสถิติเว็บไซต์ และ 3) เครื่องมือค้นหากูเกิ้ล
ผลการวิจัยพบว่า 1) เว็บไซต์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (culturestravel.com) นำเสนอด้วยเทคนิคความจริงเสริม ในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอำเภอหัวหินและอำเภอปราณบุรี จำนวน 15 สถานที่ 2) ผลการวัดประสิทธิภาพเว็บไซต์ จากโปรแกรมติดตามสถิติ Google analytics มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1,008 คน จำนวนหน้าที่มีการเปิด 12,092 ครั้ง ระยะเวลาการอ่าน 03:18 นาที อัตราตีกลับ 0.98% และ 3) ผลจากการประเมินการจัดอันดับของเว็บไซต์จากเครื่องมือค้นหากูเกิ้ล โดยการทดสอบคีย์เวิร์ด ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ใน อำเภอหัวหิน และ อำเภอปราณบุรี จำนวน 10 คำ ปรากฏว่า เว็บไซต์ (culturestravel.com) แสดงผลในเครื่องมือค้นหากูเกิ้ล ในหน้า 1 คิดเป็นร้อยละ 70 และแสดงผล ในหน้า 3 คิดเป็นร้อยละ 30 จากผลวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ส่งผลต่อการจัดอันดับของเครื่องมือค้นหากูเกิ้ล ทำให้มีผู้เข้าชมมากขึ้น อีกทั้งเนื้อหาในเว็บไซต์มีความน่าสนใจ และมีการโต้ตอบการผู้ใช้งานโดยนำเทคโนโลยีความจริงเสริม จึงทำให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Article Details
ข้อความภายในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารทั้งหมด รวมถึงรูปภาพประกอบ ตาราง เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ การนำเนื้อหา ข้อความหรือข้อคิดเห็น รูปภาพ ตาราง ของบทความไปจัดพิมพ์เผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากกองบรรณาธิการวารสารอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร
มหาวิทยาลัยฯ อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยต้องแสดงที่มาจากวารสารและไม่ใช้เพื่อการค้า
ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และบุคลากร คณาจารย์ท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯแต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการ
เอกสารอ้างอิง
เกียรติคุณ เยาวรัตน์. (2560). กลยุทธ์การสร้างคลิปวิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อแรงจูงใจในการออกกาลังกายด้วยการวิ่ง กรณีศึกษา เฟซบุ๊คแฟนเพจ “Runner’s Journeys”. นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารการตลาดดิจิทัล. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
จันทกานต์ สถาพรวจนา และสกนธ์ ม่วงสุ่น. (2556). การออกแบบและพัฒนาหนังสือเรียนที่ใช้เทคโนโลยีออคเมนต์เตดเรียลริตี้ในการนำเสนอภาพประกอบแบบสามมิติ. สาขาวิชาเทคโนโลยีการโทรทัศน์และวิทยุกระจายเสียง คณะอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ประจวบคีรีขันธ์.
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ. (2540). วิถีไทยการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ : โครงการวิถี ทรรศน์.
ณัฐภัทร รักษ์ตานนท์ชัย และอานนท์ ทับเที่ยง. (2560). ปัจจัยด้านเว็บไซต์ที่มีผลต่อการจัดอันดับของกูเกิ้ลกรณีศึกษาเว็บไซต์ช๊อปปิ้งไทย. บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการนวัตกรรม. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี.
ธนิต เหลืองดี และสุกุมา อ่วมเจริญ. (2560). ระบบนำชมแบบเสมือนจริงเพื่อการเรียนรู้และท่องเที่ยว พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี. การประชุมวิชาการระดับชาติราชภัฎเพชรบุรี วิจัยศิลปวัฒนธรรม ครั้งที่ 4. มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี.
ปิยะวงค์ วงศ์ชุติภิญโญ. (2553). ปัจจัยที่มีต่อการพัฒนาเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลสินค้า. สาขาวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
เพ็ญนภา จุมพลพงษ์, พันธ์ศักดิ์ พึ่งงาม และสุธิษา เชญชาญ. (2560). การพัฒนาเว็บไซต์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ จังหวัดลพบุรี. การประชุมวิชาการระดับชาติราชภัฏเพชรบุรี วิจัยศิลปวัฒนธรรม ครั้งที่ 4. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
ไพฑูรย์ ศรีฟ้า. (2556). การผลิตสื่อการเรียนการสอนยุคใหม่สไตล์AURASMA. นิเทศศาสตร มหาบัณฑิต. ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา. คณะศึกษาศาสตร์. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
วศิน อุ่ยเต็กเค่ง. (2558). การศึกษากลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดออนไลน์ ของธุรกิจภาพยนตร์ออนไลน์รูปแบบสตรีมมิ่งในประเทศไทย. นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสื่อสารการตลาดดิจิทัล. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
วิเศษศักดิ์ โคตรอาษา, เดชอนันต์ บุญพัน , กฤษณา บุตรปาละ, ขวัญ ใจ ดีจริง, และเสรี หร่ายเจริญ. (2542). เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ: เธิร์ดเวฟ เอ็ดดูเคชั่น.
สิริมา แท่นนิล และปราโมทย์ ประจนปัจจนึก. (2557). การปรับตัวของเกษตรกรจากปัญหาการปลูกมะพร้าวในเขตอำเภอทับสะแกจังหวัดประจวบคีรีขันธ์. วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. ปีที่ 40 ฉบับที่ 1.
อรรคพล ยุตตะกรณ์. (2549). Search Engine Optimization ปรับแต่งเว็บไซต์ให้ดังสุดๆ. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : กรังต์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล.
อัชฌาพร กว้างสวาสดิ์, วีระชัย คอนจอหอ, ปรัชญนันท์ นิลสุข และ ปานจิตต์ หลงประดิษฐ์.(2560).การพัฒนาเว็บไซต์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งผลต่อการจัดอันดับด้วยเทคนิคการตลาดของเครื่องมือค้นหา. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ปีที่ 36 ฉบับที่ 3 พฤษภาคม –มิถุนายน 2560 หน้าที่ 291-301
อรปรียา คำแพ่ง, วันเฉลิม พูนใจสม และฆัมภิชา ตันติสันติสม. (2560). การศึกษาพฤติกรรมการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชรโดยใช้ Google Analytics. รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 4. สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร