ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับธุรกิจส่งออกรถยนต์ และชิ้นส่วนของประเทศไทย
คำสำคัญ:
ศักยภาพ, การแข่งขัน, รถยนต์, ชิ้นส่วนรถยนต์บทคัดย่อ
งานวิจัยเฉพาะเรื่องฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้แก่ธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทย คือ 1) เพื่อศึกษาปัญหาและแนวทางในการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาค้นหาปัจจัยที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทยและ 3) เพื่อศึกษาค้นหากลยุทธ์ทางการตลาดและข้อเสนอแนะให้กับธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทย วิธีดำเนินวิจัยทำการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพโดยพิจารณาปรากฏการณ์ทางการส่งออกจากสภาพแวดล้อมสถิติหรือบริบทตามความเป็นจริงทั้งนี้เพื่อหาความสัมพันธ์ของปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลกระทบ ต่อการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันของธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทย ด้วยเหตุนี้เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างซึ่งเป็นแบบสัมภาษณ์ปลายเปิด วิจัยเชิงคุณภาพจึงเน้นไปที่การสัมภาษณ์เชิงลึกโดยคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposeful Selection) จากผู้ที่มีประสบการณ์ด้านการขายของบริษัทตัวแทนผลิตและจำหน่ายรถยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทยที่มีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 5 ปี และทราบถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับขั้นตอนปัญหาและปัจจัยที่จะส่งผลต่อธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วน จำนวน 5 บริษัท (5 ท่าน) งานวิจัยนี้จะใช้เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการวิเคราะห์แบบอุปนัยเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้องมาเชื่อมโยงกับข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์แล้วจึงนำข้อค้นพบทั้งหมดมาวิเคราะห์ สรุปผลการวิจัยพบว่า 1) นโยบายของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและปัจจัยทางด้านอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา มีผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของไทยมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคทางอ้อมทางด้านเงินทุนเทคโนโลยีทักษะแรงงานเป็นปัจจัยหลักเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคที่มีผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทย 2) ปัจจัยทางด้านเทคโนโลยีและปัจจัยทางด้านการส่งเสริมและสนับสนุนจาก ภาครัฐและหน่วยงานด้านการลงทุน การเปิดการค้าเสรี การเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และปัจจัยโดยอ้อมการปรับปรุงพัฒนาทางด้านสื่อโฆษณาและการตลาดและทักษะของบุคลากรเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทย 3) การสร้างความน่าเชื่อถือในตราสินค้า การสร้างความไว้วางใจ การสร้างความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและบริการ การพัฒนาสื่อโฆษณาควบคู่ไปกับการปรับปรุงโครงงาน นโยบายของภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยปรับปรุงและพัฒนาการเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับธุรกิจส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของประเทศไทยตามลำดับ
เอกสารอ้างอิง
ดร.ธนินท์รัฐ รัตนพงศ์ภิญโญ. (2553). ศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวระยะสั้นของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ทิชากร เกสรบัว. (2555). ปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกในอุตสาหกรรมรถยนต์และการพยากรณ์ : วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา, 4(8).
ธัญญารัตน์ ไชยวันดี. (2555). การพยากรณ์แนวโน้มมูลค่าการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของไทย. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
นงลักษณ์ โปร่งจิตร. (2557). กลยุทธ์และส่วนผสมทางการตลาดของผู้ส่งออกรถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบของไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
นฤมล พึ่งทอง. (2557). ปัจจัยภายในองค์กรและภายนอกองค์กรที่มีความสัมพันธ์กับการส่งออกของอุตสาหกรรมยางรถยนต์จากประเทศไทย. ปทุมธานี : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ปิยกานต์ จันทแพน. (2550). ปัจจัยที่มีผลต่อแนวโน้มการส่งออกสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ไปสู่ภูมิภาคเอเชีย. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
เลิศศักดิ์ ชัยวณิชย์. (2557). การรับรู้การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการที่ส่งผลต่อความพึงพอใจ และความจงรักภักดีต่อรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อ ISUZU ของลูกค้าในกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
สรวิศ ชัยเลิศวณิชกุล. (2557). แนวทางการกำหนดนโยบายด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
สิขเรท ธาราศักดิ์. (2554). การค้าขายระหว่างประเทศไทย-มาเลเซีย. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
อกรินทร์ สังข์ทอง. (2552). ภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์ในสังคมพหุวัฒนธรรมการทบทวนแนวคิดทฤษฎีและการปฏิบัติ. ปัตตานี : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
