การลดของเสียในกระบวนการเป่าฟิล์มสำหรับถุงพลาสติกชนิด PP โดยวิธีซิกซ์ ซิกมา

Main Article Content

กุศลิน กิจพงษ์นิกร

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาเพื่อลดปัญหาของเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการเป่าฟิล์ม โดยมุ่งเน้นลดของเสียที่เกิดจากข้อบกพร่องประเภทเจล ยับ และหนาบางไม่สม่ำเสมอในแนวขวางเครื่องจักร  โดยใช้แนวคิดซิกซ์ ซิกมา เริ่มจาก 1) ระยะนิยามปัญหา ซึ่งพบว่าของเสียจากการผลิตในกระบวนการเป่าฟิล์มถุงพลาสติกชนิดพีพีขนาด 30 x (6+2+2) นิ้ว ประเภทเจล ยับ และหนาบางมีสัดส่วนสูงที่สุดรวมกันเป็นร้อยละ 11.03  ของปริมาณการผลิต 2) ระยะการวัด ทำการประเมินระบบการตรวจสอบพบว่ามีความแม่นและเที่ยงอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถยอมรับได้ 3) ระยะการหาสาเหตุของปัญหา ในขั้นแรกทำการระดมสมองโดยใช้แผนผังก้างปลาพบว่ามี 22 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อข้อบกพร่องประเภทเจล ยับ และหนาบาง จากนั้นนำไปคัดกรองด้วยแผนผังแสดงสาเหตุและผล ทำให้เหลือเพียง 9 ปัจจัยนำไปศึกษาต่อ 4) ระยะการปรับปรุงกระบวนการ ได้ดำเนินการปรับปรุง 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ 1) การออกแบบการทดลองโดยใช้วิธีพื้นผิวตอบแบบส่วนประสมกลาง เพื่อทดสอบความมีนัยสำคัญของปัจจัยด้วยวิธีการทางสถิติ และหาค่าที่เหมาะสมของแต่ละปัจจัย 2) การสร้างระเบียบวิธีปฏิบัติงานที่ถูกต้อง และในขั้นตอนสุดท้าย 5) ระยะควบคุมกระบวนการ ทำการทดสอบเพื่อยืนยันผลการปรับปรุงและจัดทำแผนควบคุมเพื่อรักษาคุณภาพหลังการปรับปรุงกระบวนการ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการผลิตคือการควบคุมอุณหภูมิของเครื่องที่จุดต่างๆ ความเร็วในการผลิตและสภาพของเครื่องจักร พบว่าภายหลังการปรับปรุงกระบวนการสามารถลดของเสียในกระบวนการเป่าฟิล์มสำหรับข้อบกพร่องประเภทเจล ยับ และหนาบางจากร้อยละ 11.03 เป็นร้อยละ 0.39 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนของเสียที่ลดลงถึงร้อยละ 99 มีมูลค่าความสูญเสียที่ลดลง 68,527 บาทต่อปี

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
[1]
กิจพงษ์นิกร ก., “การลดของเสียในกระบวนการเป่าฟิล์มสำหรับถุงพลาสติกชนิด PP โดยวิธีซิกซ์ ซิกมา”, sej, ปี 13, ฉบับที่ 1, น. 187–201, ส.ค. 2018.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

[1] J. Cherry and S. Seshadri, “Six Sigma: using statistics to reduce process variability and costs in radiology,” Radiology Management, vol. 22, pp. 42-49, Jan. 2000.
[2] ไพโรจน์ บาลัน, การจัดการกระบวนการตามหลัก Six Sigma. กรุงเทพมหานคร: อีไอแสควร์พับลิซซิ่ง, 2549.
[3] เจริญ นาคะสรรค์, กระบวนการแปรรูปพลาสติก. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์นิติธรรม, 2547.
[4] G. Hiesgen, K. Saul, and C. Rauwendaal, “Temperature induced dimensional variation in extrusion,” in The Regional Conference Graz 2015 – Polymer Processing Society PPS, Graz, Austria, 2015, pp. 030005.
[5] C. Rauwendaal, “Effective troubleshooting of extrusion problems,” in The Regional Conference Graz 2015 – Polymer Processing Society PPS, Graz, Austria, 2015, pp. 030021.
[6] J. Sung Lee, D. M. Shin, H. S. Song, H. Wook Jung and J. Chun Hyun, “Existence of optimal cooling conditions in the film blowing process,” J. Non-Newtonian Fluid Mech., vol. 137, pp. 24-30, Aug. 2006.
[7] J. G. Khan, R. S. Dalu and S. S. Gadekar, “Defects in extrusion process and their impact on product quality,” Inter. J. Mech. Eng. Robot. Res., vol. 187, pp. 187-194, Jul. 2014.
[8] K. S. Yoon and C. W. Park, “Stability of a blown film extrusion process,” Int. Polym. Proc., vol. 14, pp. 342-349, Dec. 1999.
[9] J. S. Lee, I. Kwon, H. W. Jung, and J. C. Hyun, “Helical instability in film blowing process: Analogy to buckling instability,” Phys. Fluids, vol. 29, p. 121501, Dec. 2017.
[10] J. Peng, K. Wei and W. Lui, “Response surface optimization of the feed compositions of biodegradable packaging foams,” Packaging Technol. Sci., vol. 18, pp. 321-330, Sep. 2005.
[11] D. C. Montgomery, Design and analysis of experiments, 8th ed. Hoboken, NJ: John Wiley & Sons, 2005.
[12] ปารเมศ ชุติมา, การออกแบบการทดลองทางวิศวกรรม” กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545.