ปัจจัยที่มีผลต่อการเพิกถอนรายวิชาเรียนของนิสิตระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปีการศึกษา 2559
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มุ่งศึกษา 1) ปัจจัยที่มีผลต่อการเพิกถอนรายวิชาเรียนของนิสิตระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปีการศึกษา 2559 และ 2) แนวทางการลดจำนวนการเพิกถอนรายวิชาเรียนของนิสิตระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในอนาคต เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ถามนิสิตระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปีการศึกษา 2559 ทุกสาขาวิชา จำนวน 335 คน สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ สถิติพรรณนา t-test และ F-test พบว่า 1) ปัจจัยที่มีผลต่อการเพิกถอนรายวิชาเรียนของนิสิตมากที่สุด คือ ปัจจัยด้านหลักสูตร/การจัดการเรียนการสอน รองลงมาเป็นปัจจัยด้านอื่น ๆ ปัจจัยด้านผู้สอนและปัจจัยด้านผู้เรียน ตามลำดับ 2) ปัจจัยด้านผู้เรียน พบว่า ปัจจัยด้านผู้เรียนในเรื่องการได้คะแนนสอบกลางภาคน้อยเกินไป จนเกรงว่าจะไม่ผ่านรายวิชาเมื่อรวมคะแนนสอบปลายภาคนั้น มีผลต่อการเพิกถอนรายวิชาเรียนของนิสิตสูง ปัจจัยด้านผู้สอนในเรื่องผู้สอนไม่ประเมินว่าผู้เรียนเข้าใจมากน้อยเพียงใด ปัจจัยด้านหลักสูตร/การจัดการเรียนการสอนในเรื่องการจัดสอบทุกวิชาภายในสัปดาห์เดียวทำให้เตรียมตัวสอบไม่ทัน และปัจจัยด้านอื่น ๆ ในเรื่องเพิกถอนเพื่อไม่ให้ฉุดเกรดวิชาอื่น ๆ หรือถูกคัดชื่อออก และเรื่องไม่มีการเปิดสอนรายวิชาในภาคฤดูร้อน มีผลต่อการเพิกถอนรายวิชาเรียนของนิสิตสูงที่สุด 3) นิสิตที่เรียนในสาขาวิชาต่างกัน มีปัจจัยที่มีผลต่อการเพิกถอนรายวิชาแตกต่างกัน ทั้งภาพรวม (Sig. = .000) และ รายปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้เรียน และปัจจัยด้านหลักสูตร/การจัดการเรียนการสอน (Sig. = .000) ปัจจัยด้านผู้สอน (Sig. = .009) และปัจจัยด้านอื่น ๆ (Sig. = .021) และ 4) นิสิตที่เรียนในชั้นปีต่างกัน มีปัจจัยที่มีผลต่อการเพิกถอนรายวิชาไม่แตกต่างกัน
สำหรับแนวทางการลดจำนวนการเพิกถอนรายวิชาเรียนของนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินรวิโรฒในอนาคต พบว่า ในด้านผู้เรียน เสนอว่า ควรบริหารเวลาและแบ่งเวลาในการอ่านหนังสือ ใช้วิธีการเพื่อนช่วยเพื่อนเรียน กำหนดเป้าหมาย วางแผนในการเรียนอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน และสร้างแรงจูงใจในการเรียน ในด้านผู้สอน เสนอว่า ควรเอาใจใส่นิสิตทั้งรายบุคคลและรายกลุ่ม ปรับปรุงและพัฒนาการเรียนการสอนให้น่าสนใจและทำความเข้าใจได้ง่าย ต่อทั้งตัวผู้สอนและผู้เรียน ทำการประเมินผลหรือสอบให้เหมาะสมสอดคล้องกับเนื้อหา ใช้การสอนแบบยกตัวอย่าง ฝึกปฏิบัติให้มากกว่าการบรรยาย สร้างบรรยากาศการเรียนการสอนให้ดึงดูดใจผู้เรียน และประเมินผู้เรียนตลอดเวลา และในด้านหลักสูตร/การจัดการเรียนการสอน เสนอว่า ควรมีการปรับปรุงเนื้อหาของหลักสูตรให้ทันสมัยเสมอ กำหนดแนวทาง การประเมินให้เหมาะสมกับเนื้อหา ปรับปรุงการจัดเนื้อหาในลักษณะกระจายหรือไม่อัดแน่น เพื่อลดภาระการรับข้อมูล มากเกินไปของผู้เรียน เพิ่มวิชาปฏิบัติให้มากขึ้น ปรับปรุงเนื้อหาให้สามารถนำไปใช้จริงได้ ปรับลดวิชาที่ไม่จำเป็นต้องเรียนออก เปิดสอนภาคฤดูร้อน ปรับปรุงและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียนให้มีความทันสมัย และควรมีห้องสมุดภายในคณะ
Article Details
ลิขสิทธิ์เป็นของวารสารวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เอกสารอ้างอิง
[2] R. B. Lovell, Adult Learning. New York: Halsted Press Wiley & Son, 1980.
[3] J. Sweller, J. J. Merrienboer, and F. G. Paas, “Cognitive Architecture and Instructional Design,” Educational Psychology Review, vol. 10, no. 3, pp. 251-296, 1998.
[4] T. Yamane, Statistics: An Introductory Analysis. 3rd Ed. New York: Harper, 1973.
[5] V. H. Vroom,(1964). Work and motivation. New York: John Wiley & Sons, 1964