การออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์จับยึดสำหรับการสอบเทียบไขควงวัดแรงบิดตามมาตรฐาน ISO 6789 : 2003 (E) ด้วยเทคนิคการกระจายหน้าที่เชิงคุณภาพ

Main Article Content

Wissarut Kongsagul

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอวิธีการอย่างเป็นระบบในการออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์จับยึดไขควงวัดแรงบิดเพื่อใช้สำหรับการสอบเทียบไขควงวัดแรงบิดให้สอดคล้องตามมาตรฐาน ISO 6789 : 2003 (E) โดยมุ่งเน้นการออกแบบอุปกรณ์จับยึดรูปแบบใหม่ที่สามารถช่วยให้ผลการสอบเทียบมีความถูกต้องและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานภายในห้องปฏิบัติการสอบเทียบได้อย่างแท้จริง งานวิจัยนี้ได้ประยุกต์ใช้เทคนิคการกระจายหน้าที่เชิงคุณภาพ(QFD) ด้วยบ้านแห่งคุณภาพ(HOQ) เป็นเครื่องมือหลักในการวิจัย เริ่มต้นงานวิจัยจากขั้นตอนที่ 1 การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลอุปกรณ์จับยึดไขควงวัดแรงบิดที่มีใช้อยู่แล้วภายในห้องปฏิบัติการสอบเทียบเพื่อให้ทราบถึงจุดเด่นและจุดด้อย ขั้นที่ 2 สารวจความต้องการของเจ้าหน้าที่สอบเทียบและผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีต่ออุปกรณ์จับยึดไขควงวัดแรงบิด ขั้นที่ 3 จากความต้องการที่ได้จะถูกแปลงให้เป็นข้อมูลเชิงเทคนิคด้วยบ้านแห่งคุณภาพ(HOQ) จากเทคนิคการกระจายหน้าที่เชิงคุณภาพ(QFD) ขั้นที่ 4 ทำการออกแบบอุปกรณ์จับยึดตัวต้นแบบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยเลือกแต่ละแนวคิดที่เหมาะสมที่สุดจากการใช้เทคนิคการสร้างสรรค์และการคัดเลือกแนวคิด ขั้นที่ 5 ทำการสร้างและทดลองใช้อุปกรณ์จับยึดตัวต้นแบบด้วยการนำไปใช้สอบเทียบไขควงวัดแรงบิด จากการทดลองพบว่าอุปกรณ์จับยึดที่ออกแบบใหม่สามารถสอบเทียบได้ตามมาตรฐาน ISO 6789 : 2003 (E) และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง ดังนี้ 1.มีความแข็งแรงในการจับยึดไขควง 2.สามารถปรับแรงบิดละเอียดได้ 3.สามารถปรับระดับความสูงของไขควงได้ 4.มีความสะดวกรวดเร็วในการจับยึดไขควง และจากการทดสอบระดับความพึงพอใจพบว่าอุปกรณ์จับยึดที่ออกแบบใหม่มีระดับคะแนนสูงมากคือ 4.75 จาก 5

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
Kongsagul, W. (2018). การออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์จับยึดสำหรับการสอบเทียบไขควงวัดแรงบิดตามมาตรฐาน ISO 6789 : 2003 (E) ด้วยเทคนิคการกระจายหน้าที่เชิงคุณภาพ. วารสารข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการไทย, 4(1), 24–33. สืบค้น จาก https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/ienj/article/view/176712
ประเภทบทความ
Research and Review Article

เอกสารอ้างอิง

[1] International Organization for Standardization, ISO 6789:2003 (E) Requirements and test methods for design conformance testing, Switzerland, Third edition, 2003

[2] Aman A. Bolar Solomon Tesfamariam Rehan Sadiq, Framework for prioritizing infrastructure user expectations using Quality Function Deployment (QFD), International Journal of Sustainable Built Environment, 2017 edition 6, page 16-29

[3] Shuhai Fan Jiawei Xiong Tian Xu SiYu Chen Wenqian Zhang, QFD design of machine – made sand based on independent / decomposition axiom. 13th Global Congress on Manufacturing and Management, GCMM 2016 Procedia Engineering 174 (2017) 442-448

[4] ข้อมูลจาก www.truetronix.com/product-th-746454-6152566-ไขควงทอร์ควัดแรงบิด (วันที่สืบค้นข้อมูล 21 เมษายน 2560)

[5] ข้อมูลจาก https://ศูนย์รวมเครื่องมือช่าง.net/NP-38 22-tohnichi.html (วันที่สืบค้นข้อมูล 21 เมษายน 2560)

[6] วิศรุต คงสกุล, เอกสารประกอบการสอน 520202 : มาตรวิทยาและการสอบเทียบเบื้องต้น, มหาวิทยาลัยบูรพา, 2556

[7] สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ, บทเรียนมาตรวิทยา, สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ, 2553

[8] สุทธิวรรณ สังข์สวน มณฑลี ศาสนนันทน์, การวิเคราะห์และการพัฒนาตุณภาพชุดควบคุมกระจกรถยนต์โดยใช้เทคนิคการกระจายหน้าที่เชิงคุณภาพ,การประชุมวิชาการข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ ประจำปี พ.ศ. 2556 16-18 ตุลาคม 2556

[9] อภิรัฐ ทรายขาว ฤภูวัลย์ จันทรสา, การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุดยกฝาครอบกระบะด้วยเทคนิคการกระจายหน้าที่เชิงคุณภาพ,การประชุมวิชาการข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ ประจำปี พ.ศ. 2556 16-18 ตุลาคม 2555

[10] International Organization for Standardization, ISO/IEC 17025 : 2005 General Requirement for the competence of testing and calibration laboratories, Switzerland, 2005

[11] International Organization for Standardization, ISO/IEC 17043 : 2010 General Requirement for Proficiency Testing, Switzerland, 2010