การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์ทางการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ยั่งยืน

Main Article Content

Natthapong Nanthasamroeng
Pawinyada Boonrom
Nattapak Palapan

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบของการขนส่งนักท่องเที่ยวระหว่างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในจังหวัดอุบลราชธานี และหารูปแบบของโลจิสติกส์ท่องเที่ยวสีเขียวที่เหมาะสมที่สุดภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดที่มีในด้านสิ่งแวดล้อมและต้นทุนการเดินทาง ผู้วิจัยได้เลือกแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในจังหวัดอุบลราชธานีมา 3 แห่งมาทำการศึกษา ได้แก่ อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย อุทยานแห่งชาติผาแต้ม และอุทยานธรณีผาชัน-สามพันโบก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบบันทึกข้อมูลทุติยภูมิและโปรแกรมตารางคำนวณ ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบของการขนส่งนักท่องเที่ยวระหว่างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในจังหวัดอุบลราชธานีมีจำนวน 46 แบบ โดยรูปแบบโครงข่ายโลจิสติกส์ทางการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่เหมาะสมที่สุดภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดที่มีในด้านต่าง ๆ ได้แก่ (1) รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวไปยังอุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอยที่เหมาะสมที่สุดคือรูปแบบที่ 4 ซึ่งมีต้นทุนในการเดินทาง 600 บาท และมีปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์ต่อคนเท่ากับ 3.4714 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (2) รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวไปยังอุทยานแห่งชาติผาแต้มที่เหมาะสมที่สุดคือรูปแบบที่ 2 ซึ่งมีต้นทุนในการเดินทาง 680 บาท และมีปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์ต่อคนเท่ากับ 2.3903 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (3) รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวไปยังอุทยานธรณีผาชัน-สามพันโบกที่เหมาะสมที่สุดคือรูปแบบที่ 4 ซึ่งมีต้นทุนในการเดินทาง 1,120 บาท และมีปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์ต่อคนเท่ากับ 4.5510 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
Nanthasamroeng, N., Boonrom, P., & Palapan, N. (2019). การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์ทางการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ยั่งยืน. วารสารข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการไทย, 5(1), 28–35. สืบค้น จาก https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/ienj/article/view/197825
ประเภทบทความ
Research and Review Article

เอกสารอ้างอิง

[1] กรุงเทพธุรกิจ, ญี่ปุ่นเผยต่างชาติเข้าประเทศเพิ่ม19%, [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, 21 ธันวาคม 2560. [เข้าถึงเมื่อ 5 เมษายน 2562] เข้าถึงได้จาก http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/785822.
[2] ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, แนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปี 2562, [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, 28 กุมภาพันธ์ 2562. [เข้าถึงเมื่อ 5 เมษายน 2562] เข้าถึงได้จาก https://kasikornbank.com/international-business/th/Thailand/IndustryBusiness/Pages/201901_Thailand_TourismOutlook19.aspx
[3] พิมพ์ลภัส พงศกรรังศิลป์, คาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการบริโภคในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและชายหาด ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี, Veridian E-Journal Silpakorn University ฉบับภาษาไทย มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, ปีที่10 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2560
[4] นัทธพงศ์ นันทสำเริง, แนวทางปรับปรุงคุณภาพการให้บริการโลจิสติกส์ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ : กรณีศึกษาอุทยานแห่งชาติในจังหวัดอุบลราชธานี, วารสารข่ายงานวิศวกรรมอุตสาหการ ปีที่ 4 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม - ธันวาคม 2561
[5] คมสัน สุริยะ, กรอบแนวคิดโลจิสติกส์สำหรับการท่องเที่ยว, [อินเทอร์เน็ต] เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, [เข้าถึงเมื่อ 5 เมษายน 2562] เข้าถึงได้จากhttp://www.tourismlogistics .com /index.php?option=com_content &view =article&id=71:concept-tourism-logistics & catid=64:conceptual-framework&Itemid= 78
[6] เถกิงศักดิ์ ชัยชาญ, การจัดการโลจิสติกส์สำหรับการท่องเที่ยวในอำเภอวังน้ำเขียวจังหวัดนครราชสีมา, วารสารเทคโนโลยีสุรนารี, ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 ก.ค. - ธ.ค. 2555
[7] ณภัทร ทิพย์ศรี และ ขจีโฉม เจียตระกูล, การจัดการโลจิสติกส์ท่องเที่ยวของธุรกิจนำเที่ยวในจังหวัดเชียงราย, วารสารการบริการและการท่องเที่ยวไทย, ปีที่ 10 ฉบับที่ 2, ก.ค. – ธ.ค. 2558
[8] นัทธพงศ์ นันทสำเริง, การรับรู้ความเสี่ยงในการเดินทางของนักท่องเที่ยว: กรณีศึกษาโลจิสติกส์ท่องเที่ยวจากอุบลราชธานีไปปากเซ, วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่า, ปีที่ 4 ฉบับที่ 3 ก.ย.- ธ.ค. 2560
[9] นัทธพงศ์ นันทสำเริง, ต้นทุนโลจิสติกส์ของการขนส่งนักท่องเที่ยวหลายรูปแบบในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ระหว่างประเทศอาเซียน: กรณีศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวกับจังหวัดอุบลราชธานี ประเทศไทย, วารสารนาคบุตรปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, ปีที่ 10 ฉบับพิเศษ มิ.ย.- ก.ย. 2561
[10] ยุทธพงศ์ พันธ์มณี, ชุติมา ใจเพ็ชร และ อนุสรณ์ บุญปก, การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการขนส่งทางบก : กรณีศึกษาหนึ่งของการบริการสหกรณ์บริการเดินรถยนต์โดยสาร, วารสารนเรศวรพะเยา, ปีที่ 6 ฉบับที่ 3 กันยายน - ธันวาคม 2556
[11] สุชาดา อยู่แก้ว และ เมธินี บุญสูง, การประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เส้นก๋วยเตี๋ยวสดในเขตอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก,วิศวกรรมสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร, ปีที่ 13 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม - ธันวาคม 2561
[12] ธารทิพย์ เศรษฐชาญวิทย์, การประยุกต์หลักการประเมินวัฏจักรชีวิตเพื่อการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลัง, วารสารพัฒนบริหารศาสตร์, ปีที่ 56 ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน 2559
[13] ธิบดินทร์ แสงสว่าง, ถิรวัฒน์ วีรงคเสนีย์ และ ศิวัช พุลศิลป์, การวิเคราะห์คาร์บอนฟุตพริ้นท์จากโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกคลองหลวง จ.ปทุมธานี ประเทศไทย, วารสาร มทร. อีสาน ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, ปีที่ 9 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 2559
[14] นันทญา เขียวแสวง, จินตนา อมรสงวนสิน และวรางคณา ศรนิลหน้า, การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์และแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แบบยั่งยืนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษาสำนักงานเขตบางแค, วิศวกรรมสาร มก., ปีที่ 30 ฉบับที่ 102 ตุลาคม -ธันวาคม 2560.
[15] Page, S. and L. Lumsdon (eds.) (2004) Tourism and transport: Issues and agenda for the new millennium, Elsevier, Boston.