เทคนิคการกระจายหน้าที่เชิงคุณภาพ การออกแบบตู้ฟักไข่ด้วยเทคนิคการกระจายหน้าที่เชิงคุณภาพ

บทคัดย่อ

การเลี้ยงไก่สายพันธุ์พื้นเมืองในประเทศไทยเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น การใช้ตู้ฟักไข่ช่วยลดปัญญาที่เกิดขึ้นจากการฟักไข่ธรรมชาติ และลดระยะเวลาการกกไข่ของแม่ไก่ ช่วยเพิ่มผลผลิตทางอ้อม ทั้งนี้ไม่ปรากฏข้อมูลว่าตู้ฟักไข่ที่มีขายในท้องตลาดได้รับการออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานสำหรับกลุ่มเป้าหมายงานวิจัยนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นเพื่อให้เกิดแนวทางการออกแบบตู้ฟักไข่โดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานเป็นหลัก งานวิจัยจึงเสนอแนวทางการออกแบบตู้ฟักไข่โดยประยุกต์ใช้เทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพ (Quality Function Deployment; QFD) ในการแปลงหน้าที่ของเครื่องในเชิงคุณภาพไปสู่แนวทางการวางแผนเชิงวิศวกรรม และอาศัยบ้านคุณภาพ (House of Quality; HOQ) ในการเชื่อมโยงข้อมูลคุณลักษณะด้านคุณภาพและข้อกำหนดทางเทคนิค ผลการวิเคราะห์พบว่า แนวทางการออกแบบตู้ฟักไข่ที่สะท้อนจากความต้องการของผู้ใช้งานเน้นหนักไปที่ข้อกำหนดเชิงเทคนิคด้านการใช้งาน ได้แก่ 1. การออกแบบให้มีความง่ายต่อการใช้งาน ควบคุมการทำงานได้ง่าย มีไฟส่องสว่างช่วยให้สังเกตการทำงานของเครื่องได้ขณะเปิดใช้งานได้ 2. การมีระบบความปลอดภัยของเครื่องที่ช่วยให้มีความปลอดภัยในการใช้งานเครื่อง โดยมีไฟสถานะแจ้งเตือนการทำงานที่ผิดปกติและสามารถตัดไฟได้ในกรณีเกิดเหตุขัดข้อง 3. การมีระบบควบคุมการทำงานแบบอัตโนมัติครอบคลุมการควบคุมระบบควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และการกลับไข่ เมื่อเทียบสมรรถนะกับคู่แข่งพบว่า แนวทางการออกแบบตู้ฟักไข่ที่ได้มีความแตกต่างจากในท้องตลาดเนื่องจากมีการเพิ่มระบบเติมน้ำอัตโนมัติ ส่งผลให้ตู้ฟักมีการทำงานที่เป็นอัตโนมัติขึ้น