การประยุกต์ใช้หลักการ ECRS ร่วมกับเทคนิค 5W1H และการออกแบบชุดป้อนอัตโนมัติเพื่อเพิ่มอัตราผลผลิตของเครื่องขัด Profile F1
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและขจัดปัญหาคอขวดในกระบวนการผลิตของไลน์ขัด Profile F1 การวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้นพบว่า อัตราการผลิตไม่เป็นไปตามเป้าหมายเนื่องจากความไม่ต่อเนื่องในการป้อนชิ้นงานด้วยแรงงานคน ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างระหว่างชิ้นงาน (Gaps) การรอคอยของเครื่องจักร (Machine Idle Time) และความเมื่อยล้าของพนักงาน การวิเคราะห์สาเหตุเชิงลึกด้วยเครื่องมือ Why-Why Analysis ยืนยันว่า การพึ่งพาแรงงานคนในการป้อนงานโดยไม่มีอุปกรณ์เสริมเป็นสาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าว แนวทางการปรับปรุงที่ใช้ในโครงงานนี้คือการประยุกต์ใช้หลักการ ECRS (Eliminate, Combine, Rearrange, Simplify) ร่วมกับเทคนิค 5W1H ในการวิเคราะห์และออกแบบ ชุดป้อนชิ้นงานอัตโนมัติ (Automatic Feeder System) เพื่อทดแทนขั้นตอนการหยิบจับด้วยมือ การดำเนินงานตามแนวทางนี้ส่งผลให้กระบวนการทำงานมีความต่อเนื่องสูงขึ้นอย่างชัดเจน อัตราการผลิตเฉลี่ยก่อนการปรับปรุงอยู่ที่ 1,084.0 ชิ้นต่อชั่วโมง และหลังการติดตั้งชุดป้อนอัตโนมัติ อัตราการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,605.8 ชิ้นต่อชั่วโมง ซึ่งคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 49% ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงแต่บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ แต่ยังช่วยขจัดคอขวดในสายการผลิตได้อย่างยั่งยืน
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารฯ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใดๆ จะได้รับอนุญาต แต่ห้ามนำไปใช้เพื่่อประโยชน์ทางธุรกิจ และห้ามดัดแปลง
เอกสารอ้างอิง
อมิตา เหล่าบุญมา. การปรับปรุงกระบวนการป้อนชิ้นงานเข้าสู่เครื่องขัด Profile F1 เพื่อเพิ่มปริมาณ Output [รายงานการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา]. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี; 2568.
ยุทธนา พงษ์ศิริลักษณ์, วรวิทย์ กุลธนภักดี. การจัดการโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ [หนังสือ]. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2562.
มานะชัย กุลาธรรม. การศึกษาการทำงานและเทคนิคการเพิ่มผลผลิต [หนังสือ]. กรุงเทพฯ: สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น); 2561.
อณจ ชัยมณี, รัตนา ข้วดทอง. การวิเคราะห์เพื่อหาจำนวนคนงานที่เหมาะสมโดยใช้เครื่องมือทางวิศวกรรมอุตสาหการในกระบวนการผลิตกระจกลามิเนต. วารสารศรีปทุมปริทัศน์ ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2563; 12(1): 21-36.
ศุภวิชญ์ สุขเกิด. การเพิ่มผลผลิตในแผนกขัดของกระบวนการผลิตเวเฟอร์ [การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต]. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์; 2563.
วุฒิพร ศรีไพโรจน์. การปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนแรงงานโดยการลดจำนวนคนงานในสายการผลิตกรณีศึกษาบริษัทผลิตขดลวด [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง; 2560.
เนตรนภา ไตรสาคร. การบริหารจัดการและ การควบคุมสายการผลิตด้วยแนวคิดลีน (Lean) กรณีศึกษาบริษัท ซิเลซติกา (ประเทศไทย) จำกัด [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต]. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ; 2562.
Simanjuntak SSA, Simamora NS. Work time measurement analysis with indirectly working measurement method on cement bagging station. IOP Conf Ser: Mater Sci Eng.2019;505(1):012141.
Khedkar SS, Varghese K. Labour Productivity Improvement in an Automobile Component Manufacturer Machine Shop using Lean Tools. IOP Conf Ser: Mater Sci Eng. 2020; 937(1): 012028.
Susandi AA, Anggoro Y. The Influence of Ergonomics and Lean Manufacturing on Employees’ Productivity and Labour Cost. J Phys: Conf Ser. 2021; 1764(1): 012030.
Klungmontri C, Jirasatitpon P. Applying value stream mapping and ECRS to minimizing waste in the hub and spoke distribution in Thai apparel manufacturer. Int J Res Ind Eng. 2025; 14(2): 23-38.
Anis S, Shajahan A. KAIZEN in Manufacturing: Transforming Productivity and Quality Through Continuous Improvement. Int J Res Innov Soc Sci. 2024; 8(6): 110-119.
Kalendar HM, Mohammed AS. Productivity improvement using ECRS and lean tools in a manufacturing industry. International Journal of Advanced Research in Engineering and Technology (IJARET). 2020; 11(10): 1052-1061.
สุภาพร แสนกุล, มานะ รักงาน, และวรวุฒิ ชัยศร. การประยุกต์ใช้เทคนิคการศึกษางานและหลักการ ECRS เพื่อเพิ่มผลิตภาพในอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไม้กรณีศึกษาโรงงานผลิตหน้าต่างไม้. วารสารเทคโนโลยีและนวัตกรรมอุตสาหกรรม. 2568; 11(1): 45-58.
