ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการป้องกัน การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรของนักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, พฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร, นักศึกษาหญิงบทคัดย่อ
การวิจัยเชิงพรรณนาแบบตัดขวางมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรของนักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 407 คน สุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ข้อมูลทั่วไป ความรู้ทางด้านสุขภาพ การเข้าถึงข้อมูลและบริการสุขภาพ การสื่อสารข้อมูลสุขภาพ การจัดการตนเอง การรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ การตัดสินใจและพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมานโดยสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการศึกษาพบว่านักศึกษามีความรู้ทางด้านสุขภาพระดับปานกลาง ร้อยละ 39.6 การเข้าถึงข้อมูลและบริการสุขภาพระดับปานกลาง ร้อยละ 66.8 การสื่อสารข้อมูลสุขภาพระดับปานกลาง ร้อยละ 66.6 การจัดการตนเองระดับปานกลาง ร้อยละ 46.2 การรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศระดับปานกลาง ร้อยละ 40.0 การตัดสินใจระดับปานกลาง ร้อยละ 63.9 และพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรระดับดี ร้อยละ 84.8 และผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่า ความรู้ทางด้านสุขภาพ (r=0.307) และการตัดสินใจ (r=0.271) มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) การสื่อสารข้อมูลสุขภาพ (r=-0.161) และการรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ (r=-0.135) มีความสัมพันธ์เชิงลบกับพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ส่วนการเข้าถึงข้อมูลและบริการสุขภาพ และการจัดการตนเอง ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร จากผลการศึกษานี้สามารถนำข้อมูลไปวางแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรและสร้างความมั่นใจในการป้องกันการตั้งครรภ์ให้กับนักศึกษา
เอกสารอ้างอิง
Best, J. (1981). Research in Education 4th ed. London: Prentice- Hall International.
Bloom, B. S. (1986). Learning for Mastery. Evaluation comment. Center for the Study of Instruction Program: University of California at Los Angeles.
Department of Mental Health. (2021). Report on reviewing the situation regarding teenagers, enhancing life skills and providing counseling. Bangkok: Department of Mental Health.
Donviset, T. & Rujiranukul, P. (2018). Learning life Skills in Preventing Pregnancy for Students in Higher Education. Rajabhat Rambhai Barni Research Journal, 13(2), 38-49.
Hohmah, N. (2018). Health literacy on Unwanted pregnancy prevention for female Students in the Faculty of Education, Yala Rajabhat University. Yala.: Faculty of Education, Yala Rajabhat University.
Junthip, N. (2017). Teenage Pregnancy in Sansai District, Chiangmai province, the semi-urban town. Lanna Public Health Journal, 13(2), 64-71.
Lao-unka, K., Seanbon, O., Sothornwit, J. & Muangpin, S. (2020). The Effect of Options Counselling and Factors Associate with Decision Making on Pregnancy Options Among Unintended Pregnant Adolescents and Youths. Srinagarind Medical Journal, 35(6), 713-719.
Nammontri, O. (2018). Health Literacy. The Dental Nurse Journal, 29(1). 122-128.
Pilasun, S. (2014). Health Technology and Policy Assessment Project.Nontaburi, Department of Health Ministry of Public Health.
Sakondhavat, Ch. (1987). Kap study about sex, reproduction, and contraception in the teenagers: case study in Khon Kaen vocational students. Khon Kaen, Faculty of Medicine Khon Kaen University.
Singthong, N., Pengjeam, N.,Soros W., Mokhuntod, S., Netphakdee, N., Wisetpeng, Kh., & Pleummalung, N. et al., (2020). Factor rerated with Health Literacy Scale for Unwanted Pregnancy Prevention of Teens in School Mueang District, Nakhon Ratchasima Province. The 7th National Conference of Nakhonratchasima College 2020 “Innovation for health and society in the digital age”. Nakhonratchasima, Research and Development Institute, Nakhonratchasima College.
Suwannarat, J. & Panyasai, K. (2019). The Effectiveness of Participatory Health literacy Model for Premature Pregnancy Prevention of Teenager. Journal of Health Research and Development Nakhon Ratchasima Public Health Provincial Office, 5(1), 60-71.
