ความชุกและความไวต่อยาปฏิชีวนะของเชื้อสแตฟฟิโลคอคคัสออเรียสที่ดื้อยาเมธิซิลลินซึ่งแยกได้ จากโพรงจมูกของนิสิตมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง

Abstract

         จากการศึกษาความชุกของเชื้อสแตฟฟิโลคอคคัสออเรียสในชุมชนนิสิตมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง โดยเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกนิสิต 55 คนและจากลูกบิดประตูห้องที่นิสิตพักจำนวน 30 ห้อง เพาะเชื้อบน Mannitol Salt Egg Yolk Agar  พิสูจน์เอกลักษณ์ของเชื้อด้วยวิธีมาตรฐานทางจุลชีววิทยา เช่น การย้อมแกรม การทดสอบคาทาเลสและโคแอกกูเลส พบเชื้อที่โพรงจมูกจำนวน 9 ตัวอย่างและที่ลูกบิด 7 ตัวอย่าง คิดเป็น ร้อยละ 16.36  และ 23.33 ตามลำดับ  เชื้อที่พบในโพรงจมูกเป็นสายพันธุ์ที่ไวต่อเมธิซิลลิน (MSSA) 7 ตัวอย่าง และดื้อต่อเมธิซิลลิน (MRSA) 2 ตัวอย่าง  ในขณะที่เชื้อที่แยกได้จากลูกบิดทุกสายพันธุ์เป็น MSSA การทดสอบความไวต่อยาต้านจุลชีพพบว่า MRSA ทั้ง 2 ไอโซเลตไวต่อยาเจนต้ามัยซิน เตตร้าซัยคลินและ โคไตรม็อกซาโซล  การพบ MRSA ในโพรงจมูกของกลุ่มตัวอย่างนิสิตแสดงให้เห็นถึงการมีอยู่ของเชื้อในชุมชน และจำเป็นที่ต้องมีการเฝ้าระวังการแพร่กระจายของเชื้อนี้ในชุมชนต่อไป

           Fifty five nasal swabs of healthy students in Thaksin University, Phatthalung campus and 30 door-knob swabs of the dormitory rooms were determined for Staphylococcus aureus.  Swabs were inoculated onto Mannitol Salt Egg Yolk Agar and incubated at 37 oC for 24 h. S. aureus isolates were identified by standard microbiological methods such as Gram’s stain, catalase and coagulase. Of the 55 nares samples and 30 door-knob samples screened, 9 (16.36%) and 7 (23.33%) showed the growth of S. aureus, respectively.  In 9 S. aureus isolates from nares samples, 7 were methicillin-susceptible S. aureus (MSSA) and 2 were methicillin-resistant S. aureus (MRSA), while all isolates from door-knob sample were MSSA.  Disk diffusion susceptibility test showed that 2 MRSA isolates were susceptible to gentamicin, tetracycline and co-trimoxazole.  The results suggested that MRSA is present in the Thai community and MRSA prevalence should be further explored and surveilled.