ผลของอุณหภูมิและการรับภาระสารอินทรีย์ต่อการผลิตมีเทนจากน้ำทิ้งหลังการผลิตไฮโดรเจน ของน้ำเสียโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ
Main Article Content
Abstract
งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาผลของอุณหภูมิและการรับภาระสารอินทรีย์ต่อศักยภาพการผลิตก๊าซ มีเทนของน้ำทิ้งหลังการผลิตไฮโดรเจนภายใต้สภาวะอุณหภูมิสูง (60 องศาเซลเซียส) และ อุณหภูมิห้อง (28-33 องศาเซลเซียส) ในระบบแบบกะและแบบต่อเนื่อง ศักยภาพในการผลิตมีเทนของน้ำทิ้งหลังการผลิตไฮโดรเจน ภายใต้สภาวะอุณหภูมิห้องที่การรับภาระสารอินทรีย์เริ่มต้น 17.6 26.4 35.2 และ 44 กรัมต่อลิตร คือ 31.9 28.4 19.5 และ 17.2 ลิตรมีเทนต่อลิตรน้ำทิ้งตามลำดับ สอดคล้องกับผลได้มีเทน 727 646 444 และ 391 มิลลิลิตร มีเทนต่อกรัมของแข็งระเหยได้ ศักยภาพในการผลิตมีเทนของน้ำทิ้งหลังการผลิตไฮโดรเจนภายใต้สภาวะอุณหภูมิ สูงที่การรับภาระสารอินทรีย์เริ่มต้น 17.6 26.4 35.2 และ 44 กรัมต่อลิตร คือ 31.2 28.7 23 และ 23 ลิตร มีเทนต่อลิตรน้ำทิ้งตามลำดับ สอดคล้องกับผลได้มีเทน 709 652 526 และ 525 มิลลิลิตรมีเทนต่อกรัมของแข็ง ระเหยได้ การผลิตมีเทนจากน้ำทิ้งหลังการผลิตไฮโดรเจนในระบบต่อเนื่องภายใต้สภาวะอุณหภูมิห้องที่ระยะ พักกักเก็บน้ำ 20 15 และ 10 วันให้ผลผลิตมีเทน 30.3 30.4 และ 24.9 ลิตรมีเทนต่อลิตรน้ำทิ้งตามลำดับ ในขณะที่ อุณหภูมิสูงให้ผลผลิตมีเทน 31.6 30.3 และ 29.29 ลิตรมีเทนต่อลิตรน้ำทิ้งตามลำดับ
This research aims to study the effect of temperature and organic loading on methane production potential of the hydrogenic effluents under thermophilic and mesophilic conditions in batch and continuous reactor. Methane potential under mesophilic condition at initial organic loading of 17.6 26.4 35.2 and 44 were 31.9 28.4 19.5 and 17.2 L-CH4/L-hydrogenic effluent, respectively corresponding to methane yield of 727 646 444 and 391 mL CH4/gVS. Methane potential under thermophilic condition at initial organic loading of 17.6 26.4 35.2 and 44 were 31.2 28.7 23 and 23 L-CH4/L-hydrogenic effluent, respectively corresponding to methane yield of 709 652 526 and 525 mL CH4/gVS. Methane productions of hydrogenic effluent in continuous reactor under mesophilic condition at HRT 20 15 and 10 days were 30.3 30.4 and 24.9 while thermophilic condition was 31.6 30.3 and 29.3 L-CH4/L-hydrogenic effluent, respectively.