ความตระหนักทางจริยศาสตร์สิ่งแวดล้อมของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครต่อปัญหาการทิ้งขยะ

Main Article Content

สลักจิต พุกจรูญ
พลกฤษณ์ คุ้มกล่ำ

Abstract

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาความตระหนักทางจริยศาสตร์สิ่งแวดล้อม ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครที่มีต่อปัญหาการทิ้งขยะในปัจจุบัน และวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความตระหนัก กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จำนวน 250 คน เครื่องมือที่ใชในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่มีโครงสร้าง 3 ส่วน ประกอบด้วย แบบสอบถาม ข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะ การเห็นประโยชน์ของการแยกขยะมูลฝอยก่อนนำทิ้ง และแบบสอบถามความตระหนักที่มีต่อการทิ้งและกำจัดขยะมูลฝอย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษามีความตระหนักต่อปัญหา การทิ้งขยะในระดับสูง คิดเป็น-ร้อยละ 49.47 ระดับปานกลางคิดเป็นร้อยละ 30.37 และระดับตํ่าคิดเป็นร้อยละ 19.30 ระดับความตระหนักต่อปัญหาการทิ้งขยะของนักศึกษาเพศชายและหญิงไม่แตกต่างกัน

คำสำคัญ : ความตระหนัก, จริยศาสตร์สิงแวดล้อม, การทิ้งขยะ

Abstract

This survey research aimed to study the realization of environmental ethics of Rajamangala University of Technology Phra Nakhon students towards the refuse disposal problem and to analyze the factors that influence their realization of environmental ethics. The subject for this research was randomly selected from the undergraduate students. The instruments used in this research were questionnaires. The data were analyzed by percentage, mean, standard deviation and t-test. The research was found that 49.47 percent of the students had a high level of the realization of environmental ethics 30.37 percent had a medium level and 19.30 percent had a low level. Gender is not different.

Keywords : Realization, Environmental Ethics, Refuse Disposal

Article Details

How to Cite
[1]
พุกจรูญ ส. and คุ้มกล่ำ พ., “ความตระหนักทางจริยศาสตร์สิ่งแวดล้อมของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครต่อปัญหาการทิ้งขยะ”, RMUTP Research Journal, vol. 4, no. 1, pp. 115–121, Dec. 2012.
Section
บทความวิจัย (Research Articles)