การติดตั้งแหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายตัวเพื่อเพิ่มความเชื่อถือได้ในระบบจำหน่ายไฟฟ้า Placement of Distributed Generation for Reliability in Distribution System

Main Article Content

นัฐโชติ รักไทยเจริญชีพ

Abstract

บทคัดย่อ

 

บทความวิจัยนี้นำเสนอการประเมินความเชื่อถือได้ในระบบจำหน่ายไฟฟ้าที่มีแหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายตัว โดยมีจุดประสงค์หลักคือการลดค่าความเสียหายอันเนื่องมาจากไฟฟ้าดับของผู้ใช้ไฟฟ้า การแก้ปัญหาการลดค่าความเสียหายอันเนื่องมาจากไฟฟ้าดับของผู้ใช้ไฟฟ้าให้มีค่าต่ำสุด โดยใช้เทคนิคการค้นหาแบบตาบูซึ่งเป็นเทคนิคการหาค่าที่เหมาะสมที่สุดมาประยุกต์ใช้ในการหาขนาดและตำแหน่งของแหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายตัวที่เหมาะสม ร่วมกับการวิเคราะห์ค่าดัชนีความเชื่อถือได้ของผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้เป็นดัชนีชี้วัดค่าความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าดับ โดยประมวลผลเทคนิคที่นำเสนอกับแบบจำลองระบบทดสอบจำหน่ายไฟฟ้าของ Roy Billinton Test System (RBTS) บัส 2                   ซึ่งประกอบด้วย 15 บัส และ 22 จุดโหลด จากการประมวลผลทดสอบทำให้ได้ผลของขนาดและตำแหน่งติดตั้งแหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายตัวที่เหมาะสมทำให้สามารถนำมาใช้เพิ่มความเชื่อถือได้ในระบบจำหน่ายไฟฟ้า

 

Abstract

This paper presents reliability evaluation in distribution system with distributed generation.                  The main objective is to minimize the customer interruption cost subject to given number of distributed generation. The minimization problem for customer interruption cost in solved by the developed tabu search algorithm together with reliability worth analysis that provide an indirect measure for cost implication associated with power outages. The developed methodology is tested with a distribution system of Roy Billinton Test System (RBTS) bus 2 consist of 15 buses and 22 load points. Numerical results from the tests demonstrate that the optimal distributed generation placement can be used to promote reliability of the distribution systems.

Article Details

How to Cite
[1]
รักไทยเจริญชีพ น., “การติดตั้งแหล่งผลิตไฟฟ้าแบบกระจายตัวเพื่อเพิ่มความเชื่อถือได้ในระบบจำหน่ายไฟฟ้า Placement of Distributed Generation for Reliability in Distribution System”, RMUTP Sci J, vol. 10, no. 2, pp. 148–156, Sep. 2016.
Section
บทความวิจัย (Research Articles)