การพัฒนาระบบฐานข้อมูลปัญหาและความต้องการของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี กรณีศึกษาอำเภอบ้านลาด (บ้านลาดโมเดล)

Main Article Content

สุกัญชลิกา บุญมาธรรม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาต้นแบบระบบฐานข้อมูลปัญหาและความต้องการของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี โดยใช้อำเภอบ้านลาด เป็นกรณีศึกษา และ 2) ศึกษาการยอมรับต้นแบบระบบฐานข้อมูลปัญหาและความต้องการของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี โดยใช้อำเภอบ้านลาด เป็นกรณีศึกษา กลุ่มเป้าหมายคือ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ 25 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในวิจัย ได้แก่ ต้นแบบการพัฒนาระบบฐานข้อมูลปัญหาและความต้องการของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี กรณีศึกษาอำเภอบ้านลาด (บ้านลาดโมเดล) และแบบสอบถามการยอมรับต้นแบบระบบฐานข้อมูลปัญหาและความต้องการของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี กรณีศึกษาอำเภอบ้านลาด (บ้านลาดโมเดล) สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที


ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการพัฒนาต้นแบบระบบฐานข้อมูลปัญหาและความต้องการของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี โดยใช้อำเภอบ้านลาด เป็นกรณีศึกษา มีผลการดำเนินการ ดังนี้ (1) การแสดงผลข้อมูลแผนที่ สามารถแสดงผลตำแหน่งของพื้นที่ที่มีปัญหาและความต้องการชุมชนตามตำแหน่งหรือพิกัด (2) ส่วนบันทึกข้อมูล ระบบสามารถจัดเก็บความต้องการในส่วนติดต่อกับผู้ใช้และจัดการฐานข้อมูลเพื่อนำไปแสดงผลในแผนที่กูเกิ้ล และการแสดงผลการติดตามชุมชนเป้าหมายที่ได้รับการช่วยเหลือหรือตอบสนอง 2) ผลการสำรวจปัญหาและความต้องการของชุมชนอำเภอบ้านลาด พบว่า ปัญหาที่พบมากที่สุดอันดับแรก คือปัญหาความยากจน จำนวน 53 ชุมชุน คิดเป็นร้อยละ 36.55 และ 3) ศึกษาการยอมรับต้นแบบระบบฐานข้อมูลปัญหาและความต้องการของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี โดยใช้อำเภอบ้านลาด เป็นกรณีศึกษา พบว่าในภาพรวมผู้ประเมินให้การยอมรับระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยที่ 4.53 ประเด็นด้านฟังก์ชันการทำงาน อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยที่ 4.45 ประเด็นด้านประสิทธิภาพการทำงาน อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยที่ 4.53 ประเด็นด้านความง่ายต่อการใช้งาน อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยที่ 4.54 และประเด็นด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ในระดับมากที่สุด เฉลี่ยที่ 4.65 โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
บุญมาธรรม ส. (2020). การพัฒนาระบบฐานข้อมูลปัญหาและความต้องการของชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี กรณีศึกษาอำเภอบ้านลาด (บ้านลาดโมเดล). วารสารวิชาการ การจัดการเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 7(1), 51–62. สืบค้น จาก https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/itm-journal/article/view/204418
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

[1] ชยาภรณ์ ชื่นรุ่งโรจน์. (ม.ป.ป.). ชุมชนและการพัฒนาชุมชน. ค้นเมื่อ มิถุนายน 21, 2562, จาก http://www.human.cmu.
ac.th/home/hc/ebook/006103/lesson10/02.htm
[2] ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและพัฒนางานปกครอง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย. (2556). อำเภอบ้านลาด จังหวัด
เพชรบุรี. ค้นเมื่อ กรกฎาคม 20, 2562, จาก http://www.amphoe.com/menu.php?am=428&pv=37&mid=1
[3] สิทธิชัย ชูสำโรง. (2559). เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 104333 การจัดการฐานข้อมูลและฐานข้อมูลภูมิสารสนเทศ. พิษณุโลก:
ภาควิชาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร.
[4] จีราวุธ วารินทร์. (2558). สร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแบบ Responsive ด้วย PHP Bootstrap + E-Commerce ฉบับสมบูรณ์.
กรุงเทพฯ: รีไวว่า.
[5] ศิริสุภา เอมหยวก และสนทยา สาลี. (2562). การพัฒนาฐานข้อมูลภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านอาหารในพื้นที่ชุมชนวัดโบสถ์จังหวัด
พิษณุโลก. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 10(1), 35–48.
[6] สุกัญชลิกา บุญมาธรรม จิรวัฑฒ์ แก้วโกศล และเอกพงษ์ ทองแท้. (2559). การพัฒนาระบบสารสนเทศจัดการฐานข้อมูลงานวิจัย
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี. วารสารวิชาการการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม, 3(2),
39–45.
[7] ปานจิตร์ หลงประดิษฐ์. (2559). แอพพลิเคชันรับรู้และแสดงตำแหน่งสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรี ตามการจำแนกกลุ่มของผู้ใช้
ด้วยกูเกิ้ลแมพเอพีไอ บนมือถือระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์. วารสารวิชาการการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม,
3(1), 74–82
[8] Likert, R. (1961). New patterns of management. New York: McGraw-Hill.
[9] สายชล เทียนงาม และคณะ (2561). การศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืน :
กรณีศึกษาชุมชนบ้านท่าเสา. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตร์วิจัย, 10(1), 120–130.
[10] Rodríguez, F., Acuña, S., & Juristo, N. (2015). Reusable Solutions for Implementing Usability Functionalities (Vol.
25). https://doi.org/10.1142/S0218194015500084