แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับครูประถมศึกษา: การประเมินความต้องการจำเป็นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2

Main Article Content

ไพศาล วงค์กระโซ่

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู 2) ประเมินความต้องการจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู และ 3) วิเคราะห์แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2 กลุ่มตัวอย่างคือครูผู้สอน 297 คน และกลุ่มเป้าหมาย คือผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ
มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.96 และแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น (PNImodified) และการวิเคราะห์เนื้อหา


ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันของสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนสภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) ผลการประเมินความต้องการจำเป็น พบว่า ด้านที่มีความต้องการจำเป็นสูงสุด คือ ด้านการสร้างและพัฒนาสื่อนวัตกรรมเทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ รองลงมาคือ ด้านการวัดประเมินผลการเรียนรู้ และด้านการออกแบบการจัดการเรียนรู้ ตามลำดับ และ 3) แนวทางการพัฒนาที่สำคัญประกอบด้วย การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และการนิเทศติดตามอย่างเป็นระบบ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วงค์กระโซ่ ไ. (2025). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับครูประถมศึกษา: การประเมินความต้องการจำเป็นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2. คุรุสภาวิทยาจารย์, 6(3), 100–115. สืบค้น จาก https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/withayajarnjournal/article/view/257935
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กมล โพธิเย็น. (2564). Active learning: การจัดการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 19(1), 11-28.

เมษา นวลศรี, กุลชาติ พันธุวรกุล, นริศรา จริยะพันธุ์, นิติกร อ่อนโยน, ศิริขวัญ บุญธรรม, สุชาวดี สมสำราญ และวิษณุ สุทธิวรรณ. (2564). การประเมินความต้องการจำเป็นเพื่อพัฒนาด้านการจัดการเรียน

การสอนของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์. วารสารร้อยแก่นสารบัณฑิต, 6(6), 35-51.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาจันทบุรี เขต 2. (2566ก). รายงานผลการนิเทศติดตามการจัด

การเรียนการสอน ปีการศึกษา 2566. จันทบุรี: ผู้แต่ง.

-----------. (2566ข). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษา

ปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566. จันทบุรี: กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา.

-----------. (2566ค). รายงานผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (RT) ปีการศึกษา 2566. นทบุรี: กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2564). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2565). รายงานการศึกษาไทย พ.ศ. 2562-2564 (Education in Thailand 2019-2021). กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.

สุวิมล ว่องวานิช. (2562). การประเมินความต้องการจำเป็น (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์

แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Bonwell, C. C., & Eison, J. A. (1991). Active Learning: Creating Excitement in the Classroom. ASHE-ERIC Higher Education Report No. 1. Washington, D.C.: The George Washington University, School of Education and Human Development.

Creswell, J. W., & Plano Clark, V. L. (2018). Designing and Conducting Mixed Methods Research (3rd ed.). SAGE Publications.

DuFour, R., & Eaker, R. (1998). Professional Learning Communities at Work: Best Practices for Enhancing Student Achievement. National Educational Service.

Knowles, M. S. (1980). From Pedagogy to Andragogy. Religious Education, 75(4), 202-211.

Prince, M. (2004). Does Active Learning Work? A Review of the Research. Journal of Engineering Education, 93(3), 223-231.