การศึกษาทักษะการวาดภาพสื่อเรื่องราวและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานศิลปะ โดยการจัดการเรียนรู้แบบแฮร์บาร์ตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) จังหวัดตรัง

Main Article Content

จีรุทม์ อารมย์ชื่น

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบทักษะการวาดภาพสื่อเรื่องราวและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานศิลปะ ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้แบบแฮร์บาร์ต ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2  โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/4  โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) อำเภอเมือง จังหวัดตรัง จำนวน 35 คน ซึ่งได้จากการเลือกแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบแฮร์บาร์ต 2) แบบประเมินทักษะการวาดภาพสื่อเรื่องราว และ 3) แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานทัศนศิลป์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต () ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test Dependent)


ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบแฮร์บาร์ต มีทักษะการวาดภาพสื่อเรื่องราวและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานทัศนศิลป์ หลังจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนจัดการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้แบบแฮร์บาร์ต มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะการวาดภาพและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนอย่างมีนัยสำคัญ นักเรียนสามารถถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพวาดได้ดีขึ้น มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการออกแบบผลงานศิลปะมากขึ้น

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อารมย์ชื่น จ. (2025). การศึกษาทักษะการวาดภาพสื่อเรื่องราวและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานศิลปะ โดยการจัดการเรียนรู้แบบแฮร์บาร์ตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดกะพังสุรินทร์) จังหวัดตรัง. คุรุสภาวิทยาจารย์, 6(3), 19–30. สืบค้น จาก https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/withayajarnjournal/article/view/258757
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เจษฎากร ตันตราจิณ. (2562). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ วิชาทัศนศิลป์โดยใช้การจัดการเรียนรู้

แบบประสบการณ์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต).มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์. https://libdoc.dpu.ac.th/thesis/Jadsadakorn.Tun.pdf

สมฤดี แจ้งข่าว. (2561). ผลการใช้วิธีสอนแฮร์บาร์ตที่มีต่อมโนทัศน์และการประยุกต์ใช้ความรู้เศรษฐศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร. http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/bitstream/123456789/2282/1/57262322.pdf

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.

สุจิตรา วงศ์ชัย. (2563). ศิลปะไทยกับวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.

อังศุมาลิน พฤษชัยนิมมิต. (2561). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนทัศนศิลป์ด้วยกระบวนการคิดสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. นครศรีธรรมราช: โรงเรียนมัธยมเทศบาลวัดท่าแพ. https://thms.tungsong.com/PA12561.pdf

Bartlett, C. (2019). Using Constructivist Grounded Theory Methods to Explore Reformers’ Experiences of Scaling-Up Education Reform. Paper Presented at the 2019 International Institute of Qualitative Methods Conference, Hilton Hotel Brisbane, May 1-3.

Eisner, E. W. (2002). The Arts and the Creation of Mind. New Haven: Yale University Press.

Kolb, D. A. (1984). Experiential Learning: Experience as the Source of Learning and Development. NJ: Prentice Hall. http://academic.regis.edu/ed205/Kolb.pdf

Lowenfeld, V., & Brittain, W. L. (1987). Creative and Mental Growth (4th ed.). New York:

The Macmillan Company.

Torrance, E. P. (1974). The Torrance Tests of Creative Thinking: Norms-Technical Manual. NJ: Personal Press.

Winner, E., Goldstein, T. R., & Vincent-Lancrin, S. (2013). Art for Art’s Sake? The Impact of Arts Education. Paris: OECD Publishing.