การเสริมสร้างความฉลาดรู้ทางเศรษฐกิจและทักษะการคิดเชิงคำนวนของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยการจัดการเรียนรู้ปรากฏการณ์เป็นฐาน ร่วมกับการแก้ปัญหา ด้วยอัลกอริทึม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลความฉลาดรู้ทางเศรษฐกิจของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยการจัดการเรียนรู้ปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับการแก้ปัญหาด้วยอัลกอริทีม 2) พัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และ 3) เสนอแนวทางการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้
ทางเศรษฐศาสตร์เพื่อส่งเสริมความฉลาดรู้ทางเศรษฐกิจของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างยั่งยืน กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 37 คน โดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน รวม 10 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบประเมินความฉลาดรู้ทางเศรษฐกิจก่อนและหลังเรียน จำนวน 20 ข้อ 3) แบบประเมินทักษะการคิดเชิงคำนวณ จำนวน 5 ข้อ 4) แบบประเมินผลการจัดการเรียนรู้ และ 5) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (5.D.) ร้อยละ (%) และการทดลอบค่าที (T-Test) ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนมีคะแนนความฉลาดรู้ทางเศรษฐกิจหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2) นักเรียนร้อยละ 78.38 มีคะแนนทักษะการคิดเชิงคำนวนผ่านผ่านเกณฑ์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.76 (5.D.=2.76) คิดเป็นร้อยละ 78.81 และ 3) แนวทางการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความฉลาดรู้ทางเศรษฐกิจของนักเรียนมัธมศึกษาตอนปลายอย่างยั่งยืน ควรพิจารณาประเด็นสำคัญ เพื่อเชื่อมโยงประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียนกับชีวิตประจำวันอย่างแท้จริง
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารคุรุสภาวิทยาจารย์ ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการคุรุสภาวารสารไม่จาเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารคุรุสภาวิทยาจารย์ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารคุรุสภาวิทยาจารย์ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนาทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทาการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรณ์จากวารสารคุรุสภาวิทยาจารย์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
จตุพล สังวังเลาว์. (2562). การประยุกต์แนวคิดการรู้ทางเศรษฐกิจในหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศไทย. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 22(3),324-336.
ชลาธิป สมาหิโต. (2562). การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานสำหรับเด็กปฐมวัย. Silpakom University e-Journal, 39(1), 113-129.
เชรษฐรัฐ กองรัตน์. (2567). การเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐาน: การพัฒนาสมรรถนะการคิดขั้นสูงเพื่อการเรียนรู้อย่างยั่งยืน. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 7(3), 1701-1720.
ณัฐภัทร แก้วรัตนภัทร์. (2566). พื้นฐานการวิเคราะห์และออกแบบอัลกอริทีม. คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). การจัยเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: สุวิริยาส์น.
นันทญ์ณภัค พรมมา และอุบลวรรรณ ส่งเสริม. (2567). แนวคิดการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปรากฏการณ์เป็นฐานกับทิศทางความเหมาะสมในบริบทการศึกษาของสังคมไทย. วารสารครุศาสตร์ราชภัฎเชียงใหม่, 3(2), 1-15.
เพ็ญประภา ภัทรานุกรม. (2562). การจัดระเบียบโลกใหม่ (New World Order) กับการปรับตัวทางการศึกษาของประเทศไทย. วารสารร่มพฤกษ์ มหาวิทยาลัยเกริก, 37(2), 57-66.
มนัสวี ปุโปคำ และขรินทร์ มั่งคั่ง. (2565). นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เศรษฐศาสตร์บูรณาการสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 10(6), 2555-2565.
วิรุฬห์ สิทธิเขตรกรณ์ และสุรีย์พร สว่างเมฆ. (2564). ผลการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณด้วยกิจกรรมการเรียนรู้สืบเสาะแบบ 5Es ร่วมกับบอร์ดเกมและการเขียน Formula Coding. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร, 23(3), 286-300.
สุชานันท์ วรวัฒนานนท์ และสกนธ์ชัย ชะนูนันท์. (2565). การจัดการเรียนรู้แบบปรากฎการณ์เป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา เรื่องปรากฏการณ์ของโลกและภัยธรรมชาติของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. Journal of Roi Kaensarn Acodemi, 8(1), 136-149.
Asaria, C, & Rebeck, K (2012). Measurement Technique of Student Performance andliteracy: College and High School. In Hoyt, G. M. & McGoldrick,K.(Eds.) IntemationalHandbook on Teaching and Leaming Eeconomics. Cheltenham: Edward Elgar.
Code Genius Academy. (2565). แนวคิดเช็งค้านวณ (Computational Thinking) กระบวนการคิดรูปแบบใหม่. https://codegeniusacademy.com/computational-thinking/
Kirtikara, K (2015). From Teaching to Learning: (Knowledge) (Skill) (Attitude) her Order Thinking and Working Skills. Bangkok: Ministry of Education.
Lusardi, A. & Mitchell, O. S. (2014). The Economic Importance of Financial Literacy: Theory and Evidence. Journal of Economic Literature, 52(1), 5-44.
Mattila, P., & Silander P. (2015). How to Create the School of the Future: Revolutionory Thinking and Design from Finland. Finland: Multprint, Oulu.
P21 Framework (2019). Framework for 21"Century Learning. https://www.battelleforkids.org /networks/p21
Schunk, D. H, Pintrich, P. R., & Meece, J. L.(2008). Motivation in Education: Theory,Research, and Applications. Upper Saddle River, NJ: Pearson Education, Inc.
Tissington, S. (2019). Learning with and Through Phenomena: An Explainer on Phenomenon-Based Learning. Paper Presented at the Association of Learning Developers in Higher Education Northern Symposium, UK: Middlesbrough.