Active Learning: จากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สู่ปรัชญาและทฤษฎีรากฐาน ตั้งทิศให้ถูก เพื่อไม่ทิ้งครูให้หลงทางอีกต่อไป

Main Article Content

นิภาพร กุลสมบูรณ์
สุวิมล ว่องวาณิช

บทคัดย่อ

แม้ว่าแนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้เชิงรุก (active learning) เป็นที่รู้จัก และนำมาใช้ในการจัดการศึกษาของไทยมาหลายทศวรรษแล้ว แต่พบว่าแนวคิดดังกล่าวก็ยังไม่แพร่หลายในโรงเรียนทั่วไป จนกระทั่งปีพ.ศ. 2558 กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอน ภายใต้โครงการ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” มุ่งเน้นการส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความหมาย
จัดกระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมที่จะทำให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ โดยผู้สอนสามารถนำแนวคิด “การจัดการเรียนรู้เชิงรุก” ไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามมาตรฐาน และตัวชี้วัดในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทุกรายวิชา รวมถึงการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และกิจกรรมส่งเสริม
การเรียนรู้อื่นๆ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2558)


ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายอย่างเร่งด่วน ส่งเสริมให้มี “การจัดการเรียนรู้เชิงรุก” เพื่อพัฒนาสมรรถนะแก่ผู้เรียนในโรงเรียนทั่วประเทศอีกครั้ง  โดยทุกสำนักที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องร่วมกันการพัฒนาครูให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกได้ เพื่อยกระดับสมรรถนะและคุณภาพผู้เรียนตามที่กำหนดในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 (ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ภายในเดือนกันยายน 2565  โดยมุ่งให้ “การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเป็นกระบวนการสำคัญในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักสูตรฯ”  (กระทรวงศึกษาธิการ, 2565)


ในช่วงสองปีที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโคโรน่าไวรัส (โควิด 19) สร้างผลกระทบต่อการเรียนรู้ของเยาวชนไทยที่อยู่ในระบบการศึกษา การเกิดภาวะการเรียนรู้ถดถอย ( learning  loss) โดยเฉพาะในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรียน จากผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้เรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้ปกครองในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 พบว่าผู้เรียนมีภาวะถดถอยของผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการโดยเฉพาะในวิชาภาษาต่างประเทศ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์  จึงเป็นที่มาของการนำเสนอมาตรการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (recovery)  ทั้งหมด 7 ประเด็น โดยส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้เชิงรุกมี
2 ประเด็น ดังต่อไปนี้ (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2564)

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
กุลสมบูรณ์ น., & ว่องวาณิช ส. (2022). Active Learning: จากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน สู่ปรัชญาและทฤษฎีรากฐาน ตั้งทิศให้ถูก เพื่อไม่ทิ้งครูให้หลงทางอีกต่อไป. คุรุสภาวิทยาจารย์, 3(2), 1–17. สืบค้น จาก https://ph02.tci-thaijo.org/index.php/withayajarnjournal/article/view/247309
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ